HoonSmart.com>> “เอเอ็มอาร์ เอเซีย” หวังเพิ่มงานใหม่ในปี 64 อีก 2.5 พันล้านบาท ในไตรมาส 3 มีงานรอเซ็นสัญญา 527 ล้านบาท ดัน Backlog สิ้นไตรมาส 3 แตะ 2 พันล้านบาท คาดรายได้ปีนี้ทรงตัว กำไรโตตามแผน จ่อขยายธุรกิจชาร์จรถจักยานยนต์ไฟฟ้าไปต่างประเทศปี 65 ส่วนบริการสร้างและบริการรถไฟฟ้าสายรอง คาดรู้ผลชัดเจนภายในปีนี้
![](https://hoonsmart.com/wp-content/uploads/2021/07/มารุต-ศิริโก-AMR-300x157.png)
นายมารุต ศิริโก กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเอ็มอาร์ เอเซีย (AMR) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างเตรียมการเสนอราคา เพื่อเข้าประมูลงานใหม่มูลค่างานรวม 2,542 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นงานโครงการและวางระบบประมาณ 2,439 ล้านบาท โดยยังมีโครงการอื่นๆที่มีโอกาสเพิ่ม อาทิ โครงการรถไฟฟ้าสายส้ม และสีม่วงใต้ ที่คาดว่าจะเปิดประมูลในช่วงปลายปี 2564 และต้นปี 2565 รวมถึงงานระบบขนส่งหัวเมืองหลัก
ในไตรมาส 3 โครงการที่รอลงนามสัญญา มูลค่า 527 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นงานคมนาคมและระบบ ICT คาดว่าจะบันทึกเป็นยอดที่รอรับรู้ (Backlog) ได้ในช่วงไตรมาสนี้ รวมถึงมีงานที่เซ็นสัญญาไปแล้วมูลค่า 247 ล้านบาท ประกอบกับ Backlog ณ สิ้นไตรมาส 2 อยู่ที่ 1,250 ล้านบาท รวมยอด Backlog ณ สิ้นไตรมาส 3 อยู่ที่ประมาณ 2,000 ล้านบาท จะทยอยรับรู้ต่อเนื่องตามระยะเวลาของโครงการ
ส่วนทิศทางผลประกอบการในปี 2564 คาดว่ารายได้จะทรงตัวใกล้เคียงกับปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 2,584 ล้านบาท เนื่องจากปีก่อนมียอดรับรู้โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวและสีทองช่วงปลายโครงการ แต่ด้วยกลยุทธ์การบริหารจัดการต้นทุนต่างๆ อย่างมีประสิทธิ ทำให้แนวโน้มกำไรสุทธิยังเติบโตตามแผน
สำหรับแผนการลงทุนในต่างประเทศ บริษัทคาดว่าในปีนี้บริษัทจะชะลอการลงทุนไปก่อน เนื่องจากวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ในปี 2565 คาดว่าจะเริ่มขยายตลาด โดยการนำธุรกิจให้บริการสถานีชาร์จแบตเตอรรี่รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ส่วนผลกระทบโควิด-19 ในประเทศก็มีผลกระทบจากการเลื่อนประมูล หรือเลื่อนเซ็นสัญญางานใหม่บ้าง รวมถึงการงดการก่อสร้าง แต่ไม่ได้มีผลกระทบนัยสำคัญ
นายมารุตกล่าวถึงแผนการพัฒนาธุรกิจในอนาคตว่ามีแผนที่จะสร้างและให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายรอง บริเวณพื้นที่รังสิต เบื้องต้นคาดว่าจะเป็นการเชื่อมโยงจากรถไฟฟ้าสายสีแดงไปยังฟิวเจอร์พาร์ครังสิต คาดว่ารู้ความชัดเจนของแผนในปีนี้ ส่วนการให้บริการเคเบิลคาร์เพื่อการท่องเที่ยว ปัจจุบันมีแผนเรียบร้อยแล้วกับเมืองท่องเที่ยว
นอกจากนี้ยังมีการลงทุนแบบแบ่งรายได้จากการลดค่าไฟฟ้า ด้วยการติดตั้งแผงโซลาร์บนหลังคา และการให้บริการสถานีชาร์จแบตเตอรี่รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ปัจจุบันเริ่มนำเสนอลูกค้าเรียบร้อยแล้ว คาดว่าปลายปี 2564 นี้ จะเห็นอุปกรณ์ขอบริษัทตั้งอยู่บนถนน
“เรามีแผนการเติบโตอย่างชัดเจน งานโครงสร้างคมนาคมและ ICT ในประเทศยังมีอยู่ค่อนข้างมาก จึงมีโอกาสในการลงทุนอีกเยอะ อีกทั้งช่วงปลายปีนี้เราหวังจะได้งานซ่อมบำรุงเข้ามา ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำ หรือ งานซ่อมบำรุงและรักษาอุปกรณ์ ให้มีสัดส่วน 20% ของรายได้รวม ภายในปี 2566 จากปัจจุบันอยู่ที่ 5-7% นอกจากนี้การมีหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ย IBD/E ในระดับที่ต่ำ 0.05 เท่า ทำให้มีโอกาสในการขยายการลงทุนอยู่อีกมาก” นายมารุต กล่าว
ด้านผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปี 2564 บริษัทมีรายได้ 727 ล้านบาท ลดลง 22% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากปีก่อนมีงานโครงการที่อยู่ในช่วงปลายทำให้รับรู้ได้เพิ่มขึ้น ซึ่งกลยุทธ์บริษัทยังเดินหน้าที่จะควบคุมต้นทุนต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้มีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 205 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.46% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 28.2% ทำให้บริษัทมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีอัตรกำไรสุทธิอยู่ที่ 10.9%