ASPS ชี้เฟดจ่อลด QE ปีนี้ ฟันด์โฟลว์ชะลอไหลเข้า บาทอ่อนหนุนหุ้นส่งออก

HoonSmart.com>> บล.เอเซีย พลัส เผย Fed Minutes หนุนความเชื่อ QE Tapering จะเกิดขึ้นภายในปีนี้ กระทบตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวน ฟันด์โฟลว์ชะลอไหลเข้าเอเชียและไทย คาดกดดัน SET Index อยู่ที่ 1437 จุด ด้านเงินบาท Sentiment บวกต่อหุ้นกลุ่มส่งออก KCE-NER-TU

บริษัทหลักทรัพย์เอเซีย พลัส (ASPS) เผยรายงานการประชุม (Fed Minute) เมื่อคืนนี้ ใจความสำคัญ ระบุ”กรรมการส่วนใหญ่มีความเห็นว่า หากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐดำเนินต่อไป Fed จะเริ่มพิจารณาปรับลดวงเงิน QE (QE Tapering)ในปีนี้ ตลาดคาดหมายการประชุม Jackson Hole วันที่ 26-28 ส.ค. 2564 ปัจจุบัน Fed กำหนดวงเงิน QE จำนวน 1.2 แสนล้านเหรียญ/เดือน

หากอ้างอิง Pattern การส่งสัญญาณ QE Tapering ในรอบก่อนปี 2556-2558 ASPS นำเสนอ พบว่า ตั้งแต่ Fed เริ่มส่งสัญญาณ QE Tapering ครั้งแรก จนถึงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย จะใช้ระยะเวลาประมาณ 20 เดือน ดังนั้น ถ้ากำหนดให้ Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจริงในช่วงปลายปี 2566 (ตามที่ส่งสัญญาณในการประชุม มิ.ย. 2564) เมื่อนำมาคำนวณย้อนกลับ จะพบว่า Fed ควรจะส่งสัญญาณ QE Tapering ในรอบนี้ประมาณช่วงเดือน ก.ค. – ส.ค. 2564


ASPS นำเสนอมาตลอดหากกระแส QE tapering เกิดขึ้น ผลกระทบประเมินเป็น 2 ส่วนสำคัญ คือ

• ตลาดหุ้นโลกผันผวน ส่วน Bond Yield และอัตราแลกเปลี่ยนปรับขึ้น : คือ

1.) ตลาดหุ้นโลกผันผวนและอาจปรับฐานช่วงสั้น ในอดีตผันผวนแรงหลังประกาศ QE taper ล่าสุดเมื่อวานหุ้นสหรัฐ ถูก take profit ราว 1% เชื่อว่าวันนี้ SET Index คาดจะได้รับ Sentiment ลบเช่นกัน

2.) แนวโน้ม Bond Yield สหรัฐคาดจะกลับเป็นขาขึ้น รวมถึง Bond Yield ไทยปรับขึ้นตาม (Sentiment บวกต่อ หุ้น BLA)

3.) Dollar Index มีแนวโน้มแข็งค่าต่อ ปัจจุบันอยู่บริเวณ 93-93.5 จุด (หากผ่านแนวต้านสำคัญบริเวณ 94 บาท) คาดหนุนค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าทะลุขึ้นไปยืน 34 บาทต่อดอลลาร์ได้ โดยรวมยังเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นในกลุ่มส่งออก อาทิ KCE , NER TU ฯลฯ


• Fund Flow ต่างชาติคาดชะลอการไหลเข้าในกลุ่มเอเซีย รวมถึงไทย : เห็นได้จาก Flow ต่างชาติในการซื้อหุ้นช่วงที่ผ่านมา ตั้งแต่ต้นเดือนนี้ Flow ต่างชาติไหลออกจากหุ้นในภูมิภาคถึง 4000 ล้านเหรียญ โดยไหลออก 3 จาก 5 ประเทศ ซึ่งประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในนั้น โดยถูกขายสุทธิ 356 ล้านเหรียญ หรือ 1.2 หมื่นล้านบาท

ในสภาวะปัจจุบันคงยากที่จะหวังพึ่ง Flow ต่างชาติ ทำให้ SET Index ขาดแรงหนุนหลัก และมีความเสี่ยงที่จะปรับฐานได้ โดยมองการเคลื่อนไหวของ SET Index วันนี้ที่ระดับ 1535 – 1557 จุด

หากย้อนไปดูเหตุการณ์ในอดีต ช่วงที่มีความกังวลว่าจะเกิดการยกเลิก QE ไปจนถึงยกเลิกมาแล้ว 1 ปี (ประมาณ 2 ปีกว่าๆ ตั้งแต่ปลายเดือนพ.ค. 2556 ไปจนถึง ก.ย. 2558) พบว่า Fund Flow ไหลออกจากตลาดหุ้นไทยด้วยปริมาณสูงถึง 3.3 แสนล้านบาท กดดันตลาดหุ้นไทยปรับฐานราว 16% อีกทั้งค่าเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่อง 21% (ขึ้นไปเกิน 36 บาท/ดอลลาร์)

ฝ่ายวิจัยฯ เก็บสถิติในอดีตว่า QE Tapering รอบก่อน ส่งผลต่อ Market Earning Yield Gap (MEYG) อย่างไร ได้ผลลัพธ์ว่า MEYG เคยแตะระดับ 4.6% ซึ่งค่าเฉลี่ยย้อนหลังอยู่เพียง 3.9% เท่านั้น ดังนั้นหากคิดกับ EPS64F ในปัจจุบันที่ 73.60 บาท/หุ้น ทำให้ SET Index ถูกดันกว่า 115 จุด อยู่ที่ 1437 จุด