CPFเผยเงินบาทอ่อนหนุนส่งออกเพิ่ม 10% อัดงบขยายธุรกิจในปท.-ตปท.

HoonSmart.com>> “เจริญโภคภัณฑ์อาหาร” รับโควิด-19 กระทบการดำเนินธุรกิจในปี 64  ไตรมาส 3 เจอล็อกดาวน์  โชว์ 5 กลยุทธ์ดำเนินธุรกิจ ส่วนเงินลงทุนปีนี้ตั้งไว้ 2.5 หมื่นล้านบาท  ขยายธุรกิจเป้า 15-17 ประเทศ เผยศึกษาซื้อกิจการต่อเนื่อง ด้านเงินบาทอ่อนส่งผลบวกส่งออก 

นางกอบบุญ ศรีชัย เลขานุการ และหัวหน้าฝ่ายงานนักลงทุนสัมพันธ์และตลาดทุน บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินงานในปี 2564 ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยในไตรมาส 3 การปิดล็อกดาวน์ ทำให้การจับจ่ายใช้สอยชะลอตัวลง แต่บริษัทพยายามดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ไม่ให้ธุรกิจหยุดชะงัด ถ้าสถานการณ์ปกติเมื่อไหร่ คาดบริษัทฯจะกลับมาเติบโตอย่างโดดเด่นอีกครั้ง

ทั้งนี้บริษัทมี 5 กลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ เพื่อสร้างการเติบโต ได้แก่ 1.การดำเนินธุรกิจให้ครอบคลุม ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ หรือ ธุรกิจครบวงจร ในฐานการผลิตทั้งหมด 17 ประเทศ 2.ขยายตลาดให้เพิ่มมากขึ้นในประเทศที่บริษัทมีการลงทุนอยู่ 3.สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ และรูปแบบการดำเนินธุรกิจ 4.การนำดิจิทัลมาใช้ในการดำเนินธุรกิจ ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น 5.การทำธุรกิจด้วยความยั่งยืน

ขณะที่เงินลงทุนในปี 2564 บริษัทตั้งไว้ที่ 25,000 ล้านบาท เพื่อขยายพื้นที่การเลี้ยง และการขยายธุรกิจ เนื่องจากบางประเทศยังมีโอกาสเติบโตอยู่อีกมาก ซึ่งประเมินเงินจำนวนดังกล่าวจะครอบคลุมการลงทุนประมาณ 15-17 ประเทศที่วางแผนไว้ (ทั้งในประเทศและต่างประเทศ) แต่เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 บริษัทยังคงระมัดระวังในการลงทุนเป็นอย่างดี เพื่อทำให้มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้บริษัทฯยังเดินหน้าซื้อกิจการก็มีศึกษาอยู่อย่างต่อเนื่อง

นางกอบบุญ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีเงินบาทอ่อนค่า ส่งผลให้ยอดส่งออกของบริษัทฯในช่วงที่ผ่านมาปรับขึ้นกว่า 10% แม้จะมีต้นทุนจากการนำเข้าบ้างบางส่วน แต่ก็ถูกกระทบไม่มาก เนื่องจากมียอดการส่งออกที่เข้ามาช่วย