กองทรัสต์ WHART ปลื้ม นักลงทุนสถาบันจองซื้อหุ้นกู้ 4.2 พันล้านบาทเกลี้ยง ฉุดอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยกองลดเหลือ 2.96% จาก 3.46% ด้านทริสเรทติ้ง จัดอันดับเครดิต A “Stable” สะท้อนสินทรัพย์ของทรัสต์ฯ คุณภาพสูงมีรายได้ที่มั่นคงในระยะยาวจากรายได้ค่าเช่า เสี่ยงต่ำ
นายปิยะพงศ์ พินธุประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ เรียล เอสเตท แมเนจเม้นท์ หรือ WHAREM ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ของทรัสต์ เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (กองทรัสต์ WHART) เปิดเผยว่า หลังจากที่ WHART เปิดเสนอขายหุ้นกู้ ครั้งที่1 จำนวน 4,200 ล้านบาท ในช่วงปลายเดือนมี.ค.2561ที่ผ่านมา โดยมีนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ ให้การตอบรับโดยการแสดงความจำนงการจองซื้อผ่าน ธนาคารกสิกรไทย จำกัด(มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้
สำหรับหุ้นกู้ครั้งที่ 1 จำนวน 4,200 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 ชุด ชุดแรก จำนวน 3,000 ล้านบาท มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 2.26 ต่อปีตลอดอายุหุ้นกู้ ตั้งแต่วันที่ออกหุ้นกู้ 30 มีนาคม 2561 ถึง 30 มีนาคม 2564 และชุที่ 2 จำนวน 1,200 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3.39 ต่อปี ตั้งแต่ออกหุ้นกู้ 30 มีนาคม 2561 ถึง 30 มีนาคม 2568 เพื่อนำเงินมาชำระหนี้ตามสัญญากู้ยืมเงินหรือหนี้ไม่ว่าเพื่อการ รีไฟแนนซ์หนี้ หรือเพื่อชำระหนี้เมื่อครบกำหนด และนำมาใช้จ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการออกหุ้นกู้และการชำระหนี้
ผู้จัดการกองทรัสต์ WHART ยังได้กล่าวถึงประโยชน์ของการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ว่า สามารถลดภาระอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยของกองทรัสต์ จาก 3.46% เป็น 2.96% รวมถึงยังสามารถลดต้นทุนทางการเงิน ของกอง ซึ่งจะทำให้กองทรัสต์ WHART มีความคล่องตัวในการบริหารงานมากขึ้น
ทั้งนี้ ภายหลังจากที่กองทรัสต์ฯ นำเงินมาชำระหนี้เงินกู้ยืม และปลดหลักประกันหนี้เงินกู้ยืมดังกล่าวแล้ว กองทรัสต์ WHART จะมีทรัพย์สินที่ปลอดภาระผูกพัน ซึ่งสามารถนำไปเป็นหลักประกันในการจัดหาเงินทุนเพื่อการลงทุนของกองทรัสต์ WHART ในอนาคตได้ ซึ่งถือว่าเป็นการเพิ่มทางเลือกสำหรับการกำหนดสัดส่วนการกู้ยืมและการเพิ่มทุนในการลงทุนของกองทรัสต์ WHART ในอนาคต นอกจากนี้ยังถือเป็นการลดความเสี่ยงของการเพิ่มขึ้นของดอกเบี้ยในสภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น เนื่องจากดอกเบี้ยในการออกหุ้นกู้จะเป็นแบบคงที่ ในขณะที่ดอกเบี้ยตามสัญญากู้เป็นแบบลอยตัว
ปัจจุบันกองทรัสต์ มีทรัพย์สิน 20 โครงการ คิดเป็นพื้นที่รวมกว่า 972,000 ตารางเมตร ครอบคลุมพื้นที่สำคัญในธุรกิจโลจิสติกส์ของประเทศทั้ง 3 พื้นที่คือ 1. บริเวณถนนบางนา-ตราด 2. บริเวณ Eastern Economic area (จังหวัดชลบุรีและระยอง) 3. บริเวณตอนเหนือของกรุงเทพมหานคร (จังหวัดอยุธยาและสระบุรี) ส่งผลให้เป็นการเพิ่มมิติในการแข่งขันให้กับกองทรัสต์ WHART เพิ่มขึ้น ทั้งยังเป็นการช่วยกระจายความเสี่ยงในการลงทุนที่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมั่นใจว่ากองทรัสต์ สามารถรักษาสัดส่วน Freehold ต่อ Leasehold ของทรัพย์สินอยู่ในอัตรา 70 ต่อ 30 ทำให้เป็นการลดความเสี่ยงของการลดมูลค่าของทรัพย์สินในอนาคต
ขณะเดียวกัน บริษัท ทริสเรทติ้ง ได้มีการจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันในวงเงินไม่เกิน 4,200 ล้านบาทของทรัสต์ฯ ที่ระดับ “A” โดยทรัสต์ฯ จะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ไปชำระคืนเงินกู้ธนาคารบางส่วนซึ่งเป็นการการันตีความน่าสนใจของหุ้นกู้ดังกล่าว