STARK ซื้อ “ไทยเอ็นคอม” 65% ลุยธุรกิจพลังงานทดแทน-EV

HoonSmart.com>>บอร์ด STARK อนุมัติลงทุนธุรกิจพลังงานทดแทนและ EV ซื้อหุ้น TENCOM จากผู้ถือหุ้นเดิม สัดส่วน 65% ครึ่งปีแรกกำไรพุ่ง 39.9% หนุนผลงานปีนี้นิวไฮต่อเนื่อง

ฟาก “ประกรณ์ เมฆจำเริญ” ซีอีโอ ปลื้มกวาดรายได้ครึ่งปีแรก แตะ 9,908 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น 36.4%  กำไร 963 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.9% จากปีก่อน ตุน Backlog หนากว่า 10,000 ล้านบาท มั่นใจหนุนรายได้ปีนี้เข้าเป้า 15-20% ทำนิวไฮต่อเนื่อง

ประกรณ์ เมฆจำเริญ

นายประกรณ์ เมฆจำเริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK )  เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 6/2564 อนุมัติลงทุนใน “บริษัท ไทย เอ็นคอม ”  (TENCOM) รวม 650 หุ้น หรือ 65% ของทุนจดทะเบียน มูลค่าลงทุน 65,000 บาท

หลังจากทำธุรกิจหลังจากนี้ 2 เดือน จะเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ TENCOM อีก 649,935 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ   100 บาท คิดเป็นมูลค่า 64.935 ล้านบาท โดยใช้กระแสเงินสดของบริษัท ส่งผลให้ TENCOM เป็นบริษัทย่อย ของ STARK

สำหรับ TENCOM  มีทุนจดทะเบียนก่อนเพิ่มทุน 100,000 บาท จำนวน 1,000 หุ้น  หลังเพิ่มทุนทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท หรือ 1 ล้านหุ้น  ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานและพลังงานทดแทน และการจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ธุรกิจที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีและการสื่อสาร ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ธุรกิจการตั้งศูนย์ข้อมูล และธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง โดยร่วมกับ บริษัท พีอีเอ เอ็นคอม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด” หรือ PEA ENCOM ซึ่งใช้กระแสเงินสดภายในบริษัท

“ วัตถุประสงค์การลงทุนครั้งนี้ เพื่อขยายธุรกิจไปในกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพลังงานทดแทน และเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มโอกาสในการเติบโตให้สอดคล้องกับแนวโน้มสถานการณ์โลกในปัจจุบัน”  ซีอีโอ กล่าว

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวถึง ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2564 สิ้นสุด 30 มิ.ย. 2564  บริษัทฯ มีรายได้หลัก 5,252 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.9% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน  4,240 ล้านบาท  กำไรสุทธิ (ส่วนของผู้ถือหุ้นใหญ่) 524 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.8% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไร 427 ล้านบาท

ส่วนผลการดำเนินงานงวด 6 เดือน  มีรายได้ 9,908 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.4% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้หลัก 7,261 ล้านบาท ขณะที่มีกำไร(ส่วนของผู้ถือหุ้นใหญ่) 963 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.9% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไร 688 ล้านบาท

ผลประกอบการที่เติบโตแข็งแกร่ง มีสาเหตุจาก  การรับรู้ยอดขายที่ปรับตัวสูงขึ้นจากโครงการภาครัฐและเอกชน ก่อสร้างอย่างต่อเนื่องตามแผนงาน  ประกอบกับผลประกอบการของธุรกิจที่ประเทศเวียดนาม มีอัตราการเติบโตที่ดี ทั้งในส่วนรายได้และกำไรเช่นกัน

จากสถานการณ์ COVID-19 บริษัทได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและออกมาตรการป้องกันอย่างต่อเนื่อง จึงดำเนินกิจการได้อย่างปกติ โดยได้ผลกระทบจากการประกาศล็อกดาวน์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น อาทิ เช่น ข้อจำกัดด้านการขนส่งสินค้า ลูกค้าชะลอการรับสินค้าเนื่องจากไซต์ก่อสร้างปิด ทำให้ลูกค้าขอเลื่อนกำหนดส่งมอบสินค้าเป็นการชั่วคราว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้า High margin

ทั้งนี้ หากไม่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว สามารถส่งมอบสินค้าได้ตามกำหนด ไตรมาส 2 นี้ จะมีกำไร เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 132 ล้านบาท โดยจะมีกำไรสุทธิ  659 ล้านบาท และงวด 6 เดือน กำไรสุทธิ 1,101 ล้านบาท โดยสินค้าดังกล่าว จะทยอยส่งในไตรมาสต่อไป ภายในปี 2564 ภายใต้มาตราการและประกาศของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

“แผนการดำเนินธุรกิจในปี 2564 ยังคงเป้าหมายรายได้เติบโต 15-20%  ซึ่งมั่นใจทำสถิติสูงสุดใหม่ได้ต่อเนื่อง จากรายได้หลักคือ ธุรกิจสายไฟฟ้า และสายเคเบิ้ล มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี ไปพร้อมกับอุตสาหกรรมไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ และมุ่งเน้นการขายสินค้าในกลุ่มทำกำไรสูง (High Margin) ปัจจุบัน มีงานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาท ทั้งงานในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งจะทยอยรับรู้ต่อเนื่อง”นายประกรณ์กล่าวในที่สุด

อ่านข่าว

STARK มาตามนัด ไตรมาส 2 กำไร 524 ล้านบาท โต 22.8%