บล.คิงส์ฟอร์ดคาดหุ้นย่อตัวแนวรับ 1,515 – 1,520 จุด

HoonSmart.com>> บล.คิงส์ฟอร์ด คาดแนวโน้มหุ้นวันนี้ลดลง แนวรับ 1,515 – 1,520 จุด ยอดผู้ติดเชื้อในประเทศพุ่งต่อเนื่อง รอประเมินมาตรการคุมระบาด ด้านม็อบชุมนุม แนะทยอยซื้อ กลุ่ม Defensive เช่น ADVANC,CHG เก็งกำไร CHG

บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด มองดัชนี SET มีแนวโน้มปรับตัวลดลงสู่แนวรับ 1,515 – 1,520 ถูกกดดันระหว่างรอประเมินมาตรการควบคุมการระบาด Covid-19 ว่าจะถึงจุดสูงสุดในเดือนนี้หรือไม่ และม็อบชุมนุมสุดสัปดาห์นี้ แนะนำทยอยซื้อกลุ่ม Defensive เช่น ADVANC,CHG

ส่วนสถานการณ์ระบาดเช้านี้ ศบค. รายงานผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 23,418 ราย หายกลับบ้าน 20,083 รายโดยรอประเมินการระบาดจะถึงจุดสูงสุดในเดือนนี้หรือไม่ ส่วนการชุมนุมม็อบเป็นปัจจัยลบกดดันการลงทุน

ด้านดัชนี DJIA, S&P500 วานนี้ปิดทำจุดสูงสุดใหมได้แรงหนุนจากกลุ่มบริการสุขภาพและเทคโนโลยีที่กำไรยังขยายได้ดีในช่วง Covidระบาด ส่วนรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐเกี่ยวพันเงินเฟ้อนั้น ดัชนี CPI ก.ค. +0.50% เทียบกับ มิ.ย. +0.90% MoM ลดลงมากสุดในรอบ 15 เดือน แต่ดัชนี PPI ก.ค.+1.0% สูงกว่าคาด +0.60% MoM จากการขาดแคลนอุปทานการผลิต ส่งผลให้เงินเฟ้อปรับขึ้นในระยะสั้น ดังนั้นภาวะเงินเฟ้อสหรัฐยังไม่ส่งสัญญาณเร่งตัวแรง นักลงทุนเริ่มคลายความกังวลต่อการเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ย อย่างไรก็ตามรอความชัดเจนในการประชุมที่แจ๊คสัน โฮล วันที่ 26 – 28 ส.ค.

สำหรับหุ้นวันนี้ แนะนำ EPG (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 14.30 บาท) รายงานกำไรสุทธิ 1Q64/65 (เม.ย.-มิ.ย.) ที่ 450 ล้านบาท เติบโตสูงถึง 503%YoY จากฐานต่ำในปีก่อน โดยรายได้จากการขายรวมอยู่ที่ 2.9 พันล้านบาท +50%YoY แบ่งเป็นรายได้จากกลุ่ม Aeroflex +29%YoY ยอดขายในไทยยังฟื้นตัวช้า แต่ยอดขายในสหรัฐและยุโรปฟื้นตัวดีหลังผ่อนคลายมาตรการ Lockdown กลุ่ม Aeroklas +95%YoY ดีขึ้นตามคำสังซื้อของผู้ผลิตยานยนต์ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงยอดขายชิ้นส่วยอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ในประเทศออสเตรเลียเพิ่มขึ้น

ส่วน EPP +15%YoY ยังถูกกดดันจากสถานการณ์ Covid ในประเทศที่กระทบต่อบรรจุภัณฑ์ประเภทถ้วยแก้ว แต่ชดเชยได้ด้วยพลาสติกประเภทกล่องใส่อาหาร ด้านต้นทุนปรับขึ้นน้อยกว่ายอดขาย ส่งผลให้ GPM ปรับตัวดีขึ้นเป็น 32.8% เทียบกับ 2Q63 ที่ 28.9% แนวโน้มในช่วงที่เหลือของปียังมีทิศทางบวกจากต้นทุนวัตถุดิบที่ชะลอลงตามราคาน้ำมัน นอกจากนี้ยังมีปัจจัยบวกจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า และการทยอยปรับเพิ่มราคาขายในช่วงที่ผ่านมา

หุ้น CHG (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย 4.48 บาท)กำไรสุทธิงวด 2Q64 โดดเด่นที่ 576 ลบ.(+272.08%YoY, +128.80%QoQ) สูงกว่าที่เราคาด ยังคงโดดเด่นรับแรงหนุนการตรวจเชื้อ Covid-19 และรายได้จากการรักษาผู้ป่วยโควิด Covid-19 (ร.พ./ASQ/Hospitel)

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยบวกจากการรับจ้างบริหารโรงพยาบาล(อื่นที่เกาะล้าน และพัทยา ที่ละ 1ร.พ. เริ่ม1Q64) และการเริ่มรับรู้รายได้จากการรับให้บริการผู้ป่วยศูนย์หัวใจสิรินธรขณะที่แนวโน้ม 3Q64 ยังคงเป็นบวกต่อเนือง YoY QoQ จาก ปัจจัยหนุนตามฤดูกาล จำนวนผู้ที่ติดเชื้อ Covid-19 สะสมที่อยู่ในระดับสูง การดำเนินงานของ Chularat 304 inter และ RPC ที่ดีขึ้น และรายได้จากการรับจ้างบริหารโรงพยาบาล เบื้องต้น เราคาดกำไรสุทธิ ปี64 อยู่ที่ 1,272 ลบ. ( +45.11%YoY)
 
 


อ่านข่าว

ดาวโจนส์ปิดบวก 14 จุด ยื่นรับสวัสดิการว่างงานลด ดัชนี PPI สูงกว่าคาด