HoonSmart.com>> “โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์” เปิดงบไตรมาส 2/64 กำไรสุทธิ 216 ล้านบาท โตแรง 387% กวาดรายได้ 3,020 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% จากงวดปีก่อน กลุ่มผู้ป่วยเข้าใช้บริการสูงขึ้นทั้งชาวไทยและต่างชาติที่พักในไทย รวมถึงเข้าพักพักกักตัว บอร์ดไฟเขียวจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลอัตรา 1.15 บาท/หุ้น ขึ้น XD 25 ส.ค.นี้
บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2564 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2564 กำไรสุทธิ 216.47 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.27 บาท เติบโต 387.2% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 44.43 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.06 บาท
ส่วนงวด 6 เดือน ปี 2564 กำไรสุทธิ 307.60 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.39 บาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 809.63 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.05 บาท
คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค. 2564 -30 มิ.ย. 2564 และกำไรสะสมในอัตราหุ้นละ 1.15 บาท กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) วันที่ 26 ส.ค. 2564 ขึ้น XD วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผลวันที่ 25 ส.ค. 2564 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 8 ก.ย. 2564
บริษัทฯ มีรายได้รวมในไตรมาส 2/2564 อยู่ที่ 3,020 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.2% จาก 2,452 ล้านบาท ในงวดเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นป็น 7.2% จาก 1.8% ในงวดปีก่อน
ผลการดําเนินงานของไตรมาส 2/2564 เติบโตขึ้นจากไตรมาส 1/2564 สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของกลุ่มผู้ป่วยชาวไทย ชาวต่างชาติที่พำนักในไทยและชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศที่มาใช้บริการสถานที่กักตัวทางเลือกในโรงพยาบาล (Alternative Hospital Quarantine: AHQ) โดยมีรายได้จากกิจการโรงพยาบาลจํานวน 2,980 ล้านบาท เพิ่มขึน 23.0% จาก 2,422 ล้านบาทในงวดเดียวกันของปีก่อน โดยหลักเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากกลุ่มผู้ป่วยชาวไทยและชาวต่างประเทศ 27.3% และ 18.5% ตามลำดับ ส่งผลให้รายได้จากกลุ่มผู้ป่วยชาวไทยคิดเป็นสัดส่วน 53.6% จากทั้งหมด ขณะที่รายได้จากกลุ่มผู้ป่วยต่างประเทศคิดเป็น 46.4% ในไตรมาส 2/2564 เทียบ 51.8% และ 48.2% ตามลำดับในไตรมาส 2/2563
ขณะที่รายได้รวมของไตรมาส 2/2564 เพิ่มขึ้น 12.7% จากไตรมาส 1/2564 และกําไรสุทธิเพิ่มขึ้น 137.5% จากไตรมาส 1/2564
สําหรับครึ่งปีแรกของปี 2564 บริษัทมีรายได้รวม 5,694 ล้านบาท ลดลง 13.5% จาก 6,586 ล้านบาทในครึ่งปีแรกของปี 2563 กําไรสุทธิในครึ่งปีแรกของปี 2564 ลดลง 62.0% เป็น 308 ล้านบาท จาก 810 ล้านบาทในครึ่งปีแรกปี 2563 ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิเป็น 5.4% ในครึ่งปีแรกของปี 2564 เทียบจาก 12.3% ในครึ่งปีแรกของปี2563 การลดลงส่วนใหญ่เป็นผลกระทบมาจาก COVID-19 ที่เพิ่งเริ่มในช่วงปลายไตรมาส 1 ปี 2563
แม้จะมีจํานวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงกลางเดือนธ.ค.2563 และต่อเนื่องมาถึงปี 2564 การเติบโตในธุรกิจของกลุ่มลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติที่พํานักในไทยยังคงเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว แต่ข้อจำกัดที่มีอย่างต่อเนื่องในการเดินทางและการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ก็ยังส่วผลกระทบต่อกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติของบริษัท โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับฐานที่สูงในช่วงครึ่งแรกของไตรมาส 1 ปี 2563 ซึ่งสถานการณ์ COVID-19 ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทเพียงเล็กน้อย