TTA ไตรมาส 2 กำไรสุทธิ 530 ลบ. สูงเป็นประวัติการณ์

HoonSmart.com>>TTA รายงานผลกำไรสุทธิ 530.3 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 2/2021 สูงเป็นประวัติการณ์ รับอานิสงส์จากตลาดสินค้าแห้งเทกองขาขึ้น เชื่อการเติบโตยังต่อเนื่องช่วงครึ่งปีหลัง ยันฐานะการเงินมั่นคงเงินสดภายใต้การบริหารมากกว่า 7.5 พันล้านบาท โครงสร้างเงินทุนแข็งแกร่งด้วยอัตราส่วน net IBD/E ระดับต่ำที่ 0.06 เท่า

บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ (TTA) ผลประกอบการไตรมาส 2/2564 มีรายได้รวมเติบโตอย่างแข็งแกร่ง จำนวน 5,125.8 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้น 49% จากไตรมาสก่อน และ 74%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ กลุ่มธุรกิจขนส่งทางเรือ กลุ่มธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง กลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อการเกษตร กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม และกลุ่มการลงทุนอื่น มีสัดส่วนรายได้คิดเป็น 52% 15% 17% 11% และ5% ของรายได้รวมทั้งหมด ตามลำดับ โดยกำไรขั้นต้นปรับตัวเพิ่มขึ้น 80% จากไตรมาสก่อน และ191% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็น 1,417.3 ล้านบาท ส่วน EBITDA เติบโต 105% จากไตรมาสก่อน และ 1,179% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็น 1,013.0 ล้านบาท

ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 TTA มีสินทรัพย์รวมเท่ากับ 32,401.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% หรือ 1,371.7 ล้านบาท จากสิ้นปี 2563 มาจากการเพิ่มขึ้นของที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ จากการรับมอบเรือมือสอง จำนวน 1 ลำ ในเดือนมกราคม 2564 เงินสดภายใต้การบริหาร ซึ่งประกอบด้วยเงินสด รายการเทียบเท่าเงินสด และสินทรัพย์ทางการเงินหมุนเวียนอื่น ยังคงอยู่ในระดับสูงที่ 7,539.3 ล้านบาท ส่วนโครงสร้างเงินทุนยังคงแข็งแกร่ง เห็นได้จากอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (net IBD/E) อยู่ในระดับต่ำที่ 0.06 เท่า ณ สิ้นไตรมาส

ผลประกอบการในรอบครึ่งปีแรกเติบโตอย่างแข็งแรงจากผลการดำเนินงานของทุกกลุ่มธุรกิจหลักที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจขนส่งทางเรือ

หากไม่รวมรายการขาดทุนพิเศษจำนวน 122.6 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการตั้งค่าเผื่อการด้อยค่าก็ตาม กำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติส่วนที่เป็นของ TTA ในไตรมาสที่ 2/2464 ยังมีจำนวนถึง 652.8 ล้านบาท และกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของ TTA เท่ากับ 530.3 ล้านบาท นับว่าปรับตัวดีขึ้น 180% จากไตรมาสก่อน และ 320% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TTA กล่าวว่า “ตลาดบริการขนส่งสินค้าแห้งเทกองฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งตั้งแต่ต้นปี 2564 และมีแนวโน้มที่จะเติบโตต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาสต่อไป ซึ่งความต้องการสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถ่านหิน และแร่เหล็ก จะเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยสนับสนุนให้ตลาดสินค้าแห้งเทกองเติบโตได้ดีต่อเนื่องในไตรมาสที่ 3/2564 และระดับค่าระวางเรือและรายได้จากอัตราค่าระวางเรือก็จะสร้างสถิติใหม่ อีกทั้งปัจจัยพื้นฐานของธุรกิจเรือเทกองยังคงมีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่องไปจนถึงปี 2565 อย่างไรตาม สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 รวมถึงแนวโน้มของเศรษฐกิจในประเทศไทยและระดับโลกยังคงมีปัจจัยที่ไม่แน่นอนเช่นกัน”