MTC มั่นใจปี 65 สินเชื่อทะยานสู่ 1 แสนลบ. อัพเป้าปีนี้โต 30-35%

HoonSmart.com>> “เมืองไทย แคปปิตอล” มองรายได้ครึ่งปีหลังโตกว่าครึ่งแรก ปรับเป้าพอร์ตสินเชื่อทั้งปี 64 โต 30-35% เดิมคาดโต 20-25% คุม NPLs ไม่เกิน 2% เปิดสาขาสิ้นปีแตะ 5.5 พันสาขา ส่งซิกปี 65 สินเชื่อคงค้างแตะระดับ 1 แสนล้านบาท  

ปริทัศน์ เพชรอำไพ

นายปริทัศน์ เพชรอำไพ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) เปิดเผยว่า บริษัทปรับเป้าพอร์ตสินเชื่อปี 2564 ขึ้นเป็น 30-35% จากเดิมคาดอยู่ที่ 20-25% เนื่องจากแนวโน้มความต้องการสินเชื่อยังอยู่ในระดับที่สูง ซึ่งในไตรมาส 3 และ 4 เติบโต ทำให้รายได้ในช่วงครึ่งปีหลัง เติบโตดีกว่าครึ่งแรกที่มีรายได้ 7,753 ล้านบาท โดยมียอดสินเชื่อคงค้างประมาณ 79,830 ล้านบาท และคาดว่าปี 2565 จะขึ้นสู่ระดับ 100,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามจากแนวโน้มความต้องการสินเชื่อในระดับที่สูง บริษัทยังคงรักษาคุณภาพสินเชื่อของลูกค้าอย่างระมัดระวัง โดยตั้งเป้าจะรักษาระดับหนี้เสีย (NPLs) ให้ไม่เกิน 2% จากปัจจุบันอยู่ที่ 1.1%

สำหรับแผนการเปิดสาขาใหม่ บริษัทตั้งเป้าที่จะเปิดให้ครบ 5,500 สาขา ภายในสิ้นปีนี้ ปัจจุบันเปิดไปแล้ว 5,284 สาขา และในปีถัดไปคาดว่าจะสามารถเปิดได้ปีละ 600-700 สาขา ไม่มีแผนปิดสาขา ถึงแม้จะมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยไตรมาส 2 ประสิทธิภาพต่อสาขาเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 15.1% และในไตรมาส 3 คาดว่าจะปรับขึ้นด้วย

ส่วนผลิตภัณฑ์ใหม่ “สินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์” คาดว่าจะมีการเติบโตที่ดีขึ้นต่อเนื่อง โดยมีตั้งเป้าปล่อยสินเชื่ออยู่ที่ 5,000-10,000 คันต่อเดือน ในช่วงครึ่งปีหลังทำได้ 8,000 คันต่อเดือน ถ้ามีรถมอเตอร์ไซค์เพียงพอ และไม่เกิดการล่าช้าในการผลิต บริษัทคาดว่าจะสามารถปล่อยได้ตามเป้าหมายสูงสุด ปัจจุบันสินเชื่อดังกล่าวมีสัดส่วนที่ 3% ของพอร์ตสินเชื่อรวม

ทั้งนี้ตามเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท). กำหนดระดับเพดานดอกเบี้ยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ทั้งรถยนต์ และมอเตอร์ไซค์ ไว้ที่ 24% ซึ่งของบริษัทกำหนดไว้ที่ 18% และ 15% ตามลำดับ โดยรวมแล้วเฉลี่ยดอกเบี้ยสินเชื่อรวมอยู่ที่ 22%  คิดในระดับต่ำอยู่แล้ว จะไม่ปรับลดลงแล้ว อีกทั้งยังมีโอกาสปรับขึ้นด้วย ถ้าต้นทุนทางการเงินสูงขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละสถานการณ

“ผลประกอบการไตรมาส 2/2564 ในมุมมองของผู้บริหารค่อนข้างน่าพอใจ ในปีนี้เราเน้นการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อเป็นหลัก ตอนนี้เติบโตที่ 26% เกินเป้าจากที่ให้ไว้ในต้นปีที่ 20-25% เราจึงปรับเป้าขึ้นเป็น 30-35% เพื่อเสริมรายได้ที่หายไปจากการที่เราช่วยเหลือลูกค้าในการลดดอกเบี้ย ถ้าในระยะยาวเราก็คาดว่ากำไรจะกลับมาดีขึ้น ตามการขยายสินเชื่อที่มากขึ้น” นายปริทัศน์กล่าว