บล.คิงส์ฟอร์ด SET ทรงตัวกรอบ 1,530-1,550 จุด

HoonSmart.com>> บล.คิงส์ฟอร์ด มองแนวโน้มหุ้นวันนี้ดัชนีทรงตัวเคลื่อนไหวในกรอบ 1,530-1,550 จุด แรงหนุนกำไรบจ.ไตรมาส 2/64 ขยายตัว รอประเมินมาตรการคุมโควิดระบาด แนะซื้อ ADVANC หุ้นแนะเก็งกำไร SKN-BDMS

บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด คาดดัชนี SET ทรงตัวในกรอบ 1,530-1,550 จุด รอประเมินมาตรการควบคุมการระบาด โดยได้แรงหนุนจากรายงานกำไร บจ. Q2/64 ขยายตัวดี แนะนำซื้อ ADVANC ราคาเหมาะสม 222 บาท ได้แรงหนุนจากการปลดล็อกสินทรัพย์ตั้งกองทุน IFF , EPG ( +งบโครงสร้างพื้นฐานสหรัฐ)

ขณะที่ มาตรการควบคุมการระบาดมีสัญญาณบวกจากจำนวนผู้หายป่วยสูงกว่าผู้ติดใหม่ต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 เช้านี้ ศบค. รายงานผู้หายป่วย 22,012 ราย ติดเชื้อใหม่ 21,038 ราย

สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ SKN (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus N.A. บาท) ผลประกอบการ 2Q64 ที่ออกมามีกำไรสุทธิ 174 ล้านบาท เติบโตเด่น +100%QoQ, +182%YoY รวม 1H64 กำไรสุทธิ 260 ล้านบาท +183%YoY หนุนจากยอดขายที่เติบโตจากส่งออกทั้งในแง่ของปริมาณและราคาขายสินค้าที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น (ทั้งจากการปรับราคาขายเพิ่มและการขายสินค้าตามเงื่อนไข CNF รวมค่าขนส่ง ศุลกากร และภาษีต้นทาง)

รายได้จากการขายใน 2Q64 อยู่ที่ 960 ล้านบาท +78.3%YoY อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 42.5% ดีขึ้นจาก 2Q63 ที่ 28.3% และ 1Q64 ที่ 35.1% ตามยอดขายที่เพิ่มขึ้น และ Economies of Scale ประกอบกับสัดส่วน Product Mixed เน้นผลิตภัณฑ์ Value added ด้าน SG&A/Sale อยู่ที่ 22.1% สูงขึ้นจากค่าขนส่งทางเรือ และบริษัทย่อยเอส.คลีเบอร์ เคมีคอล เริ่มเปิดดำเนินการ รวมแล้วอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 18.1% ดีขึ้นจาก 2Q63 ที่ 11.4% และ 1Q64 ที่ 11.6% ช่วงที่เหลือของปีคาดว่ายังได้ประโยชน์จากตลาดส่งออกที่มีสัดส่วนกว่า 90% ตามเงินบาทที่อ่อนค่า อัตรากำไรอยู่ในเกณฑ์ดีต่อเนื่องตามการใช้กำลังการผลิตในระดับสูงและการบริหารจัดการต้นทุนหลังลงทุนโรงงานผลิตกาวและสารเคมีช่วยลดต้นทุน

หุ้น BDMS (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมายปี65 25.25 บาท) กำไรสุทธิงวด 2Q64 อยู่ที่ 1,452 ลบ. (+217.19 YoY, +8.48% QoQ) ฟื้นตัวชัดเจน อัตราการครองเตียงของผู้ป่วยในช่วง 2Q64 ปรับตัวขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 60% (1Q64 ที่ 46% & 2Q63 ที่ 39%) รับแรงหนุนจากรายได้ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับโรคระบาด Covid-19 (หากไม่รับรวมรายได้ Covid-19 รายได้ YoY จะเติบโตเพียงราว +12%YoY ลดลงจากที่รายงานที่ +24%YoY)

สำหรับแนวโน้มในช่วง 2H64 ยังคงรับปัจจัยหนุนต่อเนื่องจาก รายได้ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับโรคระบาด Covid-19 และ High Season ของกลุ่มร.พ. โดยในส่วนของรายได้ Covid-19 นอกเหนือจากการรักษาซึ่งช่วยหนุน อัตราการครองเตียง แล้ว สามารถแบ่งออกได้เป็นราว 3 ส่วน 1.การตรวจเชื้อซึ่งเห็นการเร่งตัวอย่างชัดเจน(ประเมิน3Q64 ยอดตรวจ > 3,800 เคส/วัน ซึ่งเกิดขึ้นในช่วง 2Q64 ) 2. การทำ Hospitel ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ราว 4,200 เตียง (อนุมานเตียงโซนเขียวที่ราคา 5,000 บาท/คืน และ U-rate=100% จะสร้างรายได้ราว 1,900 ลบ. ต่อไตรมาส) 3. วัคซีน Moderna ที่เราคาดว่าจะได้รับการจัดสรรราว 2 แสนโดส (ประเมินรายได้ราว 330 ลบ.)