HoonSmart.com>>”ไออาร์พีซี” เปิดผลงานไตรมาส 2/64 มีกำไร 4,574 ล้านบาท จากปีก่อนขาดทุน 411 ล้านบาท ครึ่งปีแรกกำไรสุทธิ 10,155 ล้านบาท มาจากรายได้จากการขาย 1 แสนล้านบาท พุ่งขึ้น 42% จากราคาขายเฉลี่ยเพิ่มตามราคาน้ำมัน ค่าใช้จ่ายลดลง แถมกำไร สต๊อกน้ำมันสุทธิรวม 8,509 ล้านบาท
บริษัท ไออาร์พีซี (IRPC) เปิดเผยผลประกอบการงวดไตรมาสที่ 2/2564 มีกำไรสุทธิ 4,574 ล้านบาท พลิกจากช่วงเดียวกันปีก่อนขาดทุนสุทธิ 411 ล้านบาท และไตรมาสแรกปีนี้มีกำไรสุทธิ 5,581 ล้านบาท รวมครึ่งปีนี้กำไรสุทธิ 10,155 ล้านบาท เทียบกับขาดทุนสุทธิ 9,316 ล้านบาท
กำไรที่ดีขึ้นมาจากราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นจากไตรมาสแรกที่ราคาเฉลี่ย 60.01 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เป็น 66.93 เหรียญสหรัฐ ทำให้บริษัทมีกำไรจากสต๊อกน้ำมันสุทธิรวม 3,507 ล้านบาท หรือ 6.30 เหรียญสหรัฐ ลดลง 1,495 ล้านบาท จากไตรมาสก่อน ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขั้นต้นจากการผลิตทางบัญชี (Accounting GIM) จำนวน 12,234 ล้านบาท หรือ 21.98 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 25% ขณะที่ค่าใช้จ่ายดำเนินงานจำนวน 3,533 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14 % ทำให้มีกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) จำนวน 8,895 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1 %
ส่วนงวด 6 เดือนแรกปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายสุทธิ 105,246 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42% ส่วนใหญ่เนื่องจากราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 43% ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยโรงกลั่นน้ำมันอัตราการกลั่นอยู่ที่ 190,000 บาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้น 1%
บริษัทฯมี Market GIM อยู่ที่ 15,692 ล้านบาท (14.73 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล) เพิ่มขึ้น 88% เนื่องจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ทั้งปิโตรเลียมและปิโตรเคมีเพิ่มขึ้น หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย นอกจากนี้มีกำไรสต๊อกน้ำมันสุทธิรวม 8,509 ล้านบาท หรือ 7.99 เหรียญสหรัฐ เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสต๊อกน้ำมันสุทธิรวม 6,722 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมี Accounting GIM จำนวน 24,201 ล้านบาท หรือ 22.72 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 22,589 ล้านบาท หรือ 21.24 เหรียญสหรัฐฯ ค่าใช้จ่ายมีจำนวน 6,634 ล้านบาท ลดลง 3% ส่งผลให้บริษัทมี EBITDA จำนวน 17,678 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนของ EBITDA จำนวน 4,932 ล้านบาท
บริษัทฯ ยังมีต้นทุนทางการเงินจำนวน 869 ล้านบาท ลดลง 6% เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยปรับตัวลดลง ขาดทุนจากการทำสัญญาอนุพันธ์ทางการเงิน 184 ล้านบาท ลดลง 400 ล้านบาท ขณะที่มีขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนของเงินกู้สกุลเงินเหรียญสหรัฐฯ จำนวน 282 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 92% เนื่องจากค่าเงินบาทอ่อนค่า นอกจากนี้บริษัทบันทึกขาดทุนจากการบริหารความเสี่ยงน้ำมันที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจำนวน 528 ล้านบาท ลดลง 17% กำไรจากการลงทุน 342 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 192% และบันทึกภาษีเงินได้จำนวน 1,572 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีเครดิตภาษีเงินได้จำนวน 2,285 ล้านบาท