MFC : Bond Yields Rose After Jobs Report

สัปดาห์ที่ผ่านมากระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงาน ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ก.ค. พุ่งขึ้น 943,000 ตำแหน่ง สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดที่ระดับ 845,000 ตำแหน่ง และเป็นการปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ขณะที่อัตราการว่างงานปรับตัวลดลงสู่ระดับ 5.4% ในเดือน ก.ค. และเป็นการปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากเดือน มิ.ย. ที่ระะดับ 5.9% แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของตลาดแรงงานสหรัฐฯท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์เดลต้า ส่งผลให้ Bond Yield สหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.3% ในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา จากที่เคยลงไปทำระดับต่ำสุดที่บริเวณ 1.15%

นอกจากนี้การให้สวัสดิการว่างงานพิเศษสำหรับผู้ว่างงานของสหรัฐฯ ในช่วงวิกฤตโควิด กำลังจะทยอยหมดลงในวันที่ 6 ก.ย. ทำให้ตลาดแรงงานสหรัฐฯ มีโอกาสที่จะฟื้นตัวได้ต่อเนื่องในเดือนหน้า ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ เริ่มพิจารณาถึงมาตรการลดขนาดสภาพคล่อง (QE Tapering) และอาจผลักดันให้ Bond Yield มีทิศทางปรับตัวขึ้นในช่วง 1-2 เดือนหลังจากนี้

PMI ภาคการบริการของสหรัฐฯ รายงานออกมาปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 64.1 จุดในเดือน ก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 60.5 จุด เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับยุโรปที่รายงาน PMI ภาคการบริการเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 59.8 จุด ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้น 6 เดือนติดต่อกัน สะท้อนภาพของการผ่อนคลายมาตรการ Lockdown และอัตราการฉีดวัคซีนที่สูงของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว ขณะที่ภาคการผลิตยังมีแนวโน้มชะลอตัวลงตามทิศทางของประเทศจีนที่เป็นฐานการผลิตรายใหญ่ของโลก

ทำให้การลงทุนในตลาดหุ้นของประเทศที่มีสัดส่วนภาคการบริการเป็นส่วนใหญ่อย่างเช่น สหรัฐฯ และยุโรป มีแนวโน้มที่จะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่ากลุ่มประเทศกำลังพัฒนาที่เศรษฐกิจต้องพึ่งพิงสัดส่วนจากภาคการผลิตเป็นหลัก