HoonSmart.com>> เอเซีย พลัส กรุ๊ปฯ กำไรสุทธิไตรมาส 2/64 จำนวน 231 ล้านบาท เติบโต 50% จากงวดปีก่อน กวาดรายได้รวม 826 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42% รายได้ค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์เพิ่ม 26% ตามวอลุ่มเทรดสูงขึ้น หนุนครึ่งปีกำไร 580 ล้านบาท โต 226%
บริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (ASP) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2564 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.2564 กำไรสุทธิ 231.34 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.11 บาท เติบโต 50% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 153.95 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.07 บาท
ส่วนงวด 6 เดือน ปี 2564 กำไรสุทธิ 580.92 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.28 บาท เติบโต 226% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 178.03 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.08 บาท
บริษัทฯ มีรายได้รวมในไตรมาส 2/2564 จำนวน 826.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.79% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีจำนวน 582.71 ล้านบาท โดยมีรายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์ 326.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์เฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้นจาก 3,661 ล้านบาท เป็น 4,162 ล้านบาท
รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้น 255.55 ล้านนบาท หรือ 214% ส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมจัดการจัดจำหน่ายหุ้นกู้/หุ้นสามัญ รายได้ค่าธรรมเนียมการขายหน่วยลงทุน ค่านายทะเบียนและค่าธรรมเนียมการบริหารกองทุนรวม
นอกจากนี้บริษัทมีกำไรและผลตอบแทนจากเครื่องมือทางการเงินจำนวน 47.68 ล้านบาท มาจากกำไรจากการซื้อขายตราสารอนุพันธ์และเงินปันผลรับ และมีรายได้ อื่น ซึ่งส่วนใหญมาจากกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน
ด้านค่าใช้จ่ายรวม 536.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายผลประโยชน์พนักงานและ
ค่าธรรมเนียมการขายหน่วยลงทุนของกองทุนรวม ซึ่งเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกับรายได้รวมของบริษัท
ส่วนงวดครึ่งปีแรก 226 โดยบริษัทมีรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการเพิ่มขึ้น 522.27 ล้านบาท หรือ 184% จากปีก่อน และมีรายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 244.63 ล้านบาท หรือ 54% จากปีก่อน รวมทั้งมีกำไร(ขาดทุน)และผลตอบแทนจากเครื่องมือทางการเงินที่สูงขึ้น
ในส่วนค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากค่าใช้จ่ายผลประโยชน์พนักงานและค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกับรายได้รวมของบริษัทอยู่ที่ 1,928.65 ล้านบาท เติบโตจากงวดครึ่งปีก่อนอยู่ที่ 976.25 ล้านบาท