HoonSmart.com>> “ปูนซีเมนต์นครหลวง” กำไรสุทธิ 1,445 ล้านบาท เติบโต 41% จากงวดปีก่อน อานิสงส์ศรีลังกาลดภาษีเงินได้นิติบุคคลลงจาก 28% เป็น 18% หนุนงบ ด้านรายได้ 10,051 ล้านบาท ลดลง 1.1% ราคาขายปูนซีเมนต์ลดงเกือบทุกตลาด
บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง (SCCC) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2564 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.2564 กำไรสุทธิ 1,445.29 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 4.85 บาท เติบโต 41.1% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 1,024.18 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 3.44 บาท
ส่วนงวด 6 เดือน ปี 2564 กำไรสุทธิ 2,508.65 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 8.42 บาท เติบโต 35.6% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 1,849.89 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 6.21 บาท
การต่ออายุมาตรการเคอร์ฟิวเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิดในแต่ละประเทศ ส่งผลกระทบด้านลบต่อความต้องการปูนซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างในช่วงปลายของไตรมาสที่ 2 ในขณะที่ตลาดวัสดุก่อสร้างในประเทศไทยปรับตัวลง แต่ธุรกิจในต่างประเทศกลับได้รับประโยชน์จากความต้องการปูนซีเมนต์ที่มีความแข็งแกร่งขึ้น
บริษัทฯ มีรายได้สุทธิในไตรมาส 2/2564 จำนวน 10,051 ล้านบาท ลดลง 1.1% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งยังคงได้รับผลกระทบจากราคาจำหน่ายปูนซีเมนต์โดยเฉลี่ยที่ปรับตัวลดลงในเกือบทุกตลาดเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนหน้า แรงกดดันด้านต้นทุนวัตถุดิบ ต้นทุนเชื้อเพลิง ค่าบรรจุภัณฑ์และค่าขนส่งรวมถึงค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาเตาเผาปูนซีเมนต์ตามตารางซ่อมบำรุงปกติที่เพิ่มสูงขึ้นส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไร แม้ว่าจะมีการบริหารจัดการต้นทุนคงที่เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดอย่างต่อเนื่อง และบริษัทร่วมและกิจการร่วมค้าในประเทศกัมพูชาจะมีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง
ขณะที่การประกาศลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลในประเทศศรีลังกาลงจากอัตรา 28% เป็น 18% ในไตรมาสที่ 2 จะส่งผลทางบวกต่อกำไรสุทธิของกลุ่มบริษัทฯ
อย่างไรก็ตามคาดการณ์ว่าผลกระทบด้านลบต่อกิจกรรมก่อสร้างจากการแพร่ระบาดของโรคโควิดจะดำเนินไปอย่างต่อเนื่องจนกว่าปริมาณการฉีดวัคซีนจะมีปริมาณมากพอที่จะสร้างภูมิต้านทานหมู่เพื่อชะลอการแพร่ระบาดของไวรัสลงได้ ในขณะที่กลุ่มบริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นกับการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้า การเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุน และการรักษาเงินสดในมือไว้ในระดับสูงพร้อมด้วยวงเงินสินเชื่อระยะยาวแบบที่ธนาคารไม่สามารถยกเลิกได้เพื่อเพิ่มเสริมสภาพคล่องในยามจำเป็น