CGS มองโควิดกด SET ให้กรอบสัปดาห์นี้ 1,520-1,560 จุด ชูหุ้นเด่น KCE กำไรดี

HoonSmart.com>> “บล.คันทรี่กรุ๊ป” มองการแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศเป็นปัจจัยหลักที่กดดันตลาด คาดสัปดาห์นี้ดัชนีเคลื่อนไหว 1,520-1,560 จุด โดยติดตามการรายงานงบบริษัทจดทะเบียน-การประชุมเฟด หุ้นเด่นประจำสัปดาห์นี้ แนะนำซื้อ KCE ราคาเป้าหมาย 90 บาท งบไตรมาส 2/2564 เติบโตโดดเด่น

บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่กรุ๊ป (CGS) วิเคราะห์เรื่องของโควิด-19 ในประเทศยังเป็นปัจจัยหลักที่กำหนดการลงทุนในสัปดาห์นี้ สถานการณ์ล่าสุดในวันอาทิตย์ผู้ติดเชื้อต่อวันยังคงเห็นการพุ่งขึ้นและทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง หากอิงข้อมูลการติดเชื้อต่อวันจาก World Meter พบว่าการติดเชื้อของประเทศไทยอยู่อันดับที่ 9 ของจำนวนประเทศที่ World Meters เก็บรวบรวมทั้งหมด 222 ประเทศ

ขณะที่ปัจจุบันจำนวนการติดเชื้อของประเทศไทยเริ่มเห็นการกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น หากมาดูข้อมูลล่าสุดจาก ศบค. พบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด 100% มาจากต่างจังหวัดที่ไม่รวมปริมณฑลถึง 59% ซึ่งเร่งตัวขึ้นมาจากช่วงก่อนหน้าราวกลางเดือน ก.ค. ที่ 46% บ่งชี้ว่าปัจจุบันการแพร่ระบาดไปเริ่มกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ซึ่งสิ่งที่กังวลและตลาดยังไม่ตอบรับคือการยกระดับมาตรควบคุมมากขึ้นในต่างจังหวัดเพื่อสกัดกั้นการระบาด แต่การยกระดับจะเป็นลบกับเศรษฐกิจรวมถึงกำไรบริษัทจดทะเบียนที่เพิ่ม Downside Risk ต่อประมาณการ จึงแนะนักลงทุนติดตามใกล้ชิดเกี่ยวกับการระบาดของต่างจังหวัด ดังนั้นจากการระบาดที่ยังมีความเสี่ยงทำให้ประเมิน SET ยังเสี่ยงอ่อนตัวกรอบ 1520 – 1560

สำหรับการส่งออกในเดือน มิ.ย. 2564 ขยายตัว 44% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นับเป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบ 11 ปี หลักๆเป็นผลจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและฐานปี 20 ที่ค่อนข้างต่ำ ส่วนสินค้าที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนได้แก่ รถยนต์และส่วนประกอบ +78% เครื่องใช้ไฟฟ้า +42% แผงวงจรไฟฟ้า +33% เคมีภัณฑ์ +47% สินค้าเกษตร +60% มองเป็นบวกต่อ (AH, DELTA, HANA, KCE, NER, PTTGC และSAT)

อย่างไรก็ตามในครึ่งปีหลังของปี 2564 ต้องติดตามการระบาดของโควิด-19 ที่หลายประเทศเผชิญการระบาดอีกครั้ง และบางประเทศที่เกิดการระบาดเป็นคู่ค้าหลักของไทย อาทิ สหรัฐ (15%) , ASEAN (13.4%) และ ญี่ปุ่น (9.8%) ส่วนปัจจัยสัปดาห์นี้ (1) ประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน ข้อมูลจาก Bloomberg ระบุสัปดาห์นี้จะมี SCC, PTTEP และ GLOBAL รายงานผลประกอบการ (2) ประชุม FED ในวันพฤหัสบดี แต่เชื่อว่าไม่มีนัยยะอะไรมากเนื่องจาก Policy ยังน่าจะคล้ายประชุมครั้งก่อน

ขณะที่กลยุทธ์การลงทุน การลงทุนระยะสั้นควรเลือกหุ้นที่ผลกระทบจากโควิด-19 ในวงจำกัด อาทิ ส่งออก (ASIAN, DELTA, HANA, KCE, NER และTU) สื่อสารและโรงไฟฟ้า (ADVANC, BGRIM, BCPG, GPSC และGULF) รวมถึงได้ประโยชน์จากโควิด-19 อาทิ โรงพยาบาล (BCH และCHG) พร้อมแนะยังคงเน้นการถือครองเงินสดมากขึ้น

สำหรับหุ้นเด่น แนะนำซื้อ KCE ราคาเป้าหมาย 90 บาท คาดผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2564 มีกำไรที่ 531 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +644% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และ +6% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า โดยมีปัจจัยผลักดันหลักมาจากรายได้ที่ขยายตัวสู่ 3,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 71% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีฐานต่ำ และ เพิ่มขึ้น 7% จากไตรมาสก่อนหน้า ตามจำนวนวันดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นและการปรับขึ้นราคาขาย