JKN ปิดดีลซื้อลิขสิทธิ์คอนเทนต์ครึ่งปีแรก 13 ราย มูลค่า 640 ลบ.

HoonSmart.com>> “เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย” เผยครึ่งปี 64 ปิดดีลซื้อลิขสิทธิ์คอนเทนต์จากผู้ขายทั้งในและต่างประเทศรวม 13 ราย มูลค่ากว่า 640.64 ล้านบาท

นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย (JKN) เปิดเผยว่า ในช่วงวันที่ 1 ม.ค.– 30 มิ.ย.2564 บริษัทได้มีการจัดซื้อลิขสิทธิ์คอนเทนต์จากผู้ขายทั้งในและต่างประเทศรวม 13 ราย ซึ่งไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน มูลค่ารวม 640.64 ล้านบาท เพื่อเผยแพร่ทางช่องทางต่างๆ ณ ประเทศต่างๆ โดยมีระยะเวลาการใช้สิทธิ์อยู่ในระหว่าง 5-7 ปีนับจากวันที่บริษัทรับมอบลิขสิทธิ์คอนเทนต์จากบริษัทที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์คอนเทนต์

สำหรับผู้ขายลิขสิทธิ์ทั้ง 13 ราย ประกอบด้วย 1. Universal Studios International B.V. , 2. นิติบุคคลซึ่งไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัท, 3. India-Cast Media Distribution Private Limited. , 4. Sony Pictures Networks India Private Limited , 5. TVF Ltd. , 6. SPE Networks – Asia PTE.LTD. , 7. OFF THE FENCE B.V. , 8. India-Cast Media Distribution Private Limited. , 9. Beijing Huo Yuan Culture & Media Co.,Ltd. , 10. NBC Universal International Television Distribution , 11. Asia Today Singapore Pte Limited , 12. CBS Studios Internation Ltd. และ 13. China Radio, Film & Television Programs Exchanging Center

ทั้งนี้ การเข้าซื้อลิขสิทธิ์คอนเทนต์เป็นไปตามที่มติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2564 ของบริษัทฯ เมื่อวันที่ 30 เม.ย.2564 มีมติอนุมัติงบประมาณในการจัดซื้อลิขสิทธิ์คอนเทนต์ของบริษัท ประจำปี 2564 ในวงเงินไม่เกิน 1,200 ล้านบาท

สำหรับการกำหนดมูลค่าสิ่งตอบแทนเป็นไปตามการเจรจาต่อรองระหว่างคู่สัญญา ซึ่งบริษัทใช้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์จากการทำธุรกิจในการพิจารณา โดยพิจารณาความน่าสนใจ ความคุ้มค่า ตลอดจนความสามารถในการทำกำไรของลิขสิทธิ์คอนเทนต์

ผลประโยชน์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นกับบริษัท เนื่องจากบริษัทประกอบธุรกิจหลักในการเป็นผู้บริหารและจดัจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ซึ่งการซือ้ลิขสิทธิ์คอนเทนต์เป็นการดำเนินธุรกิจตามปกติของบริษัท เพื่อให้ได้มาซึ่งคอนเทนต์ และนำมาผ่านกระบวนการ Localization เป็นสินค้าสำร็จรูปเพื่อส่งมอบให้แก่ลูกค้าซึ่งโดยส่วนใหญ่เป็นเจ้าของแพลทฟอร์มการออกอากาศลิขสิทธิ์คอนเทนต์

ทั้งนี้สินค้าสำเร็จรูปของบริษัทเป็นที่ต้องการและยอมรับของลูกค้า เนื่องจาก เนื้อหามีความน่าสนใจเหมาะกับกลุ่มผู้ชม บริษัทมีการทำการตลาดกับผู้ชมจึงทำให้เกิดกลุ่มแฟนคลับสามารถสร้าง Eyeball ให้แก่ลูกค้าได้ และมีต้นทุนที่ต่ำกว่าการที่ลูกค้าทำการผลิตคอนเทนต์เอง จึงสามารถสร้างผลตอบแทนให้บริษัทได้เป็นอย่างดี

สำหรับแหล่งเงินทุนที่ใช้ บริษัทจะใช้กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน และ/หรือแหล่งเงินทุนจากสถาบันการเงิน