ดาวโจนส์ปิดบวก 25 จุด รับสวัสดิการว่างงานพุ่ง กลุ่มเทคโนโลยีนำ

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก ดัชนีดาวโจนส์ปรับขึ้น 25 จุด รับตัวเลขยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้นผิดจากที่คาด นักลงทุนกลับมากังวลเศรษฐกิจอีกครั้ง ด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรลดลง แรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีนำ ด้านตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่บวก ECB คงดอกเบี้ย วงเงินซื้อพันธบัตร ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นกว่า 2%

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 22 กรกฎาคม2564 ปิดที่ 34,823.35 จุด เพิ่มขึ้น 25.35 จุด หรือ 0.07% หลังข้อมูลการยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้นผิดจากที่คาด ทำให้กังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจอีกครั้ง และส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรลดลง

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,367.48 จุด เพิ่มขึ้น 8.79 จุด, +0.20%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,684.60 จุด เพิ่มขึ้น 52.64 จุด, +0.36%

นักลงทุนหันกลับมาซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีด้วยมุมมองทางบวกต่อผลการดำเนินงานที่จะรายงานในสัปดาห์หน้า โดยเฉพาะบริษัทขนาดใหญ่ หุ้นแซลส์ฟอร์ซเพิ่มขึ้น 2.5% หุ้นแอมะซอน หุ้นเฟซบุ๊คต่างเพิ่มขึ้นกว่า 1.4% หุ้นแอปเปิล เพิ่มขึ้น 0.96%

หุ้นไมโครซอฟท์ เพิ่มขึ้น 1.68% หลังนักวิเคราะห์จากซิตี้ปรับราคาเป้าหมายขึ้นโดยชี้ว่าผลการดำเนินงานจะดีกว่าที่ตลาดคาด

กระทรวงแรงงานรายงานการยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 419,000 ราย สูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม จาก 368,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ และสูงกว่า 350,000 รายที่นักวิเคราะห์คาด

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีลดลงมาที่ 1.265%

นักวิเคราะห์จาก ระบุว่า การยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกที่เพิ่มขึ้นมากกว่าคาด มีผลต่อตลาด แต่นักลงทุนส่วนหนึ่งมองว่าเป็นภาวะชั่วคราวในตลาดแรงงาน นอกจากนี้คาดว่าการยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจะทรงตัวเพราะการฉีดวัคซีนจะมีผลให้เด็กกลับไปโรงเรียน หรือสถานรับเลี้ยง รวมทั้งช่วยให้คนกลับไปทำงานได้ อีกทั้งข้อมูลที่ระยะเวลาใดเวลาหนึ่งยังไม่ใช่แนวโน้ม

ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนยังสดใส โดยบริษัทที่จัดอยู่ในระดับ investment-grade รายงานผลการดำเนินงานที่ดีกว่าคาดถึง 16% โดย 15% ของบริษัทในดัชนี S&P 500 ได้รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2 แล้ว ซึ่ง 88% มีกำไรสูงกว่าที่ และ 84% มีรายได้สูงกว่าคาด

สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติ (NAR) รายงาน ยอดขายบ้านมือสองเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้น 1.4% สู่ระดับ 5.86 ล้านยูนิต ต่ำกว่า 5.90 ล้านยูนิตที่นักวิเคราะห์คาด

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดยกลุ่มเดินทางและสันทนาการที่เพิ่มขึ้น 2.6% จากธนาคารกลางยุโรป (ECB) คงอัตราดอกเบี้ยและยังยืนยันที่จะยังคงใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายไปจนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย

ที่ประชุม ECB เมื่อวานนี้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ไว้ที่ระดับ 0% รวมทั้งคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.50% และคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25% ตลอดจน มีมติคงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามโครงการ Pandemic Emergency Purchase Programme (PEPP) ที่ระดับ 1.85 ล้านล้านยูโร

นักลงทุนยังขานรับผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ซึ่งสะท้อนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 456.53 จุด เพิ่มขึ้น 2.56 จุด,+0.56%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,968.30 จุด ลดลง 29.98 จุด,-0.43%

ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,481.59 จุด เพิ่มขึ้น 17.11 จุด, +0.26%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,514.54 จุด เพิ่มขึ้น 92.04 จุด, +0.60%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 1.61 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 71.91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 1.56 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 73.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
 
 
อ่านข่าว

ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้มีทั้งบวก/ลบ “ฮ่องกง-จีน” ร่วง