HoonSmart.com>> “น้ำตาลบุรีรัมย์” เผยกลุ่มธุรกิจ New S Curve รับข่าวดีลูกค้ารายใหญ่ในสหรัฐฯ เหมาเครื่องจักรสั่งผลิตบรรจุภัณฑ์จากชานอ้อยล็อตใหญ่ภายใต้สัญญาระยะยาว ป้อนให้ลูกค้ากลุ่มเชนร้านอาหารแบรนด์ชั้นนำ รับโอกาสเศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด-19 คาดเฟสแรกใช้เครื่องจักร 4 เครื่อง กำลังการผลิต 4 ล้านชิ้นต่อเดือน เริ่มส่งออกเดือนก.ย.-ต.ค.นี้ ก่อนติดตั้งเพิ่มอีก 6 เครื่องต้นปี 65
นายอนันต์ ตั้งตรงเวชกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท น้ำตาลบุรีรัมย์ (BRR) เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจ New S Curve ของกลุ่ม BRR ในครึ่งปีหลัง จะเห็นทิศทางการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ และจะเริ่มเข้ามาช่วยกระจายความเสี่ยงจาการดำเนินงานที่พึ่งพิงธุรกิจหลักคือการจำหน่ายน้ำตาลเพียงอย่างเดียว ทำให้กลุ่ม BRR มีความมั่นคงของรายได้จากการดำเนินธุรกิจที่มีความหลากหลาย และสามารถใช้ประโยชน์จากผลพลอยได้ที่เกิดจากการกระบวนการผลิตน้ำตาล ช่วยสร้างความมั่นคงของรายได้ในระยะยาว
กลุ่มธุรกิจบรรจุภัณฑ์จากชานอ้อย ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท ชูการ์เคน อีโคแวร์ จำกัด หรือ SEW เป็นธุรกิจที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญและจะขับเคลื่อนธุรกิจนี้เติบโตอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ผ่านมาได้ลงทุนก่อสร้างโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์จากชานอ้อย และลงทุนโรงเยื่อใหญ่ที่เป็นวัตถุดิบผลิตสินค้า เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ให้แก่กลุ่ม BRR
ล่าสุด SEW ประสบความสำเร็จรุกขยายผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์จากชานอ้อยไปตลาดต่างประเทศ หลังได้ลงนามรับจ้างผลิตสินค้าให้กับ Amercare Royal ซึ่งเป็น 1 ใน 4 ผู้นำเข้ารายใหญ่ในประเทศสหรัฐอเมริกาในช่วงเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อผลิตบรรจุภัณฑ์จากชานอ้อยประเภทชามภายใต้แบรนด์ลูกค้า (OEM) ส่งไปจำหน่ายให้แก่เชนร้านอาหารชื่อดังในสหรัฐฯ หลังจากสัญญาณเศรษฐกิจฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง โดยใช้เครื่องจักรในการผลิตทั้งสิ้น 10 เครื่อง คิดเป็น 70% ของกำลังการผลิตในปัจจุบัน ซึ่งจะแบ่งการผลิตออกเป็น 2 เฟส ซึ่งเฟสแรกจะใช้เครื่องจักร 4 เครื่อง รวมกำลังการผลิต 4 ล้านชิ้นต่อเดือน คาดว่าจะเริ่มผลิตสินค้าได้ภายในก.ย.-ต.ค.นี้เป็นต้นไป ส่วนเฟส 2 ที่ใช้เครื่องจักรผลิตจำนวน 6 เครื่อง กำลังการผลิต 6 ล้านชิ้นต่อเดือน คาดว่าจะเริ่มส่งออกได้ภายในไตรมาส 1/2565
สำหรับความสำเร็จครั้งนี้ มาจากศักยภาพด้านการผลิตของ SEW ที่มีแหล่งวัตถุดิบเยื่อกระดาษสีน้ำตาลที่ผลิตจากชานอ้อยที่มีการพัฒนานวัตกรรมซึ่งเป็นองค์ความรู้ของกลุ่ม BRR ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มด้านราคาขายที่ดีกว่าราคาในท้องตลาด ขณะเดียวกันคู่ค้าอย่าง Amercare Royal ต้องการกระจายความเสี่ยงด้านสงครามการค้าจากการว่าจ้างผลิตบรรจุภัณฑ์ในประเทศจีน
“สัญญาที่เราลงนามกับผู้นำเข้ารายใหญ่ในสหรัฐฯ เป็นสัญญาจ้างผลิตระยะยาวที่เข้ามาช่วยเพิ่มรายได้และสร้างความมั่นด้านผลการดำเนินงานจากกลุ่มธุรกิจ New S Curve ซึ่งมีบทบาทอย่างมีนัยสำคัญต่อการผลักดันการเติบโตให้แก่กลุ่ม BRR นับจากนี้เป็นต้นไป” นายอนันต์ กล่าว