ดาวโจนส์ปิดร่วง 725 จุด วิตกไวรัสสายพันธุ์เดลต้าฉุดเศรษฐกิจโลก

HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วง 725 จุด วิตกไวรัสสายพันธุ์เดลต้า ฉุดการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ด้านตลาดหุ้นยุโรปลดลงกว่า 2% ราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงกว่า 7% แตะ 66.42 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 19 กรกฎาคม2564 ปิดที่ 33,962.04 จุด ลดลง 725.81 จุด หรือ 2.09% อ่อนตัวมากสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม แม้จะดีขึ้นจากที่ร่วงลงไปถึง 946 จุดระหว่างชั่วโมงซื้อขายจากความกังวลเกี่ยวกับจำนวนผู้ป่วยโรคโควิดที่เพิ่มขึ้นจะมีผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก แม้ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวแข็งแกร่ง

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,258.49 จุด ลดลง 68.67 จุด, -1.59%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,274.98 จุด ลดลง 152.25 จุด, -1.06%

นักวิเคราะห์ระบุว่า นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับจำนวนผู้ป่วยโรคโควิดรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯเดือนนี้ในกลุ่มผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนจากไวรัสกลายพันธุ์เดลต้า โดยข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบุว่าในรอบ 7 วันที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 26,000 รายต่อวันจากเฉลี่ย 11,000 รายต่อวันในเดือนก่อน หรือเพิ่มขึ้นกว่า 70%

นอกจากนี้จำนวนผู้ป่วยโรคโควิดรายใหม่ก็เพิ่มขึ้นจากสายพันธุ์เดลต้าเช่นกันแม้แต่ในประเทศที่ฉีดวัคซีนครบแล้วอย่างสหราชอาณาจักร ทำให้กังวลว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัว

นักวิเคราะห์จาก Kingsview Asset Management ระบุว่า การลดลงขอตลาดส่วนใหญ่มาจากไวรัสสายพันธุ์เดลต้า เพราะกังวลว่าเศรษฐกิจจะไม่เปิดเร็วเท่าที่คาดไว้

กลุ่มพลังงาน กลุ่มการเงินและกลุ่มอุตสาหกรรมร่วงลงมากที่สุด

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีลดลงไปที่ 1.17% ต่ำสุดในรอบ 5 เดือน จากความวิตกว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัว

หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ร่วงลง 2.76% หุ้นเจพีมอร์แกน ร่วงลง 3.25% หุ้นมอร์แกน สแตนเล่ย์ ลดลง 2.08% หุ้นซิตี้กรุ๊ป ร่วงลง 2.72% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ดิ่งลง 2.61%

กลุ่มพลังงานลดลง จากราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 7.5% หลังจากกลุ่มโอเปกและพันธมิตรมีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน โดยหุ้นเชฟรอน ลดลง 2.7% หุ้นเอ็กซอน โมบิล ลดลง 3.44%

กลุ่มสายการบินได้รับผลกระทบหนักเพราะนักลงทุนประเมินว่าผู้บริโภคคงไม่ได้เดินทางมากตามที่คาด หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์และหุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ต่างลดลงกว่า 4% ส่วนหุ้นยูไนเต็ดแอร์ไลน์ลดลง 5%

ในกลุ่มอุตสาหกรรมหุ้นโบอิ้งลดลง 5% หุ้นเจนเนอรัล มอเตอร์และหุ้นแคทเธอพิลาร์ต่างลดลงราว 2%

สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) รายงาน ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านเดือนกรกฎาคมลดลง สู่ระดับ 80 ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 และต่ำกว่า 82 ที่นักวิเคราะห์คาด

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง นำโดยกลุ่มธนาคาร พลังงานและกลุ่มเดินทางและสันทนาการจากความกังวลเกี่ยวจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นในทวีปยุโรปจากสายพันธุ์เดลต้าที่แพร่ กระจายง่าย ซึ่งมีผลให้หลายประเทศต้องกลับมาใช้มาตรการรักษาระยะห่างที่เข้มข้น ขณะที่สหราชอาณาจักรยกเลิกมาตรการควบคุมทั้งหมด

หุ้นคาร์นิวาลดลง 8.3% มากสุดกลุ่มเดินทางและสันทนาการ

นอกจากนี้ตลาดยังได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมหนักในเยอรมนีและเบลเยี่ยม และจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลงกลุ่ม OPEC+ มีมติเพิ่มปริมาณการผลิต

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 444.29 จุด ร่วงลง 10.45 จุด, -2.30%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,844.39 จุด ร่วงลง 163.70 จุด, -2.34%

ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,295.97 จุด ร่วงลง 164.11 จุด, -2.54%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 5,133.20 จุด ร่วงลง 407.11 จุด, -2.62%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนสิงหาคมลดลง 5.39 ดอลลาร์ หรือ 7.5% ปิดที่ 66.42 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม ปีนี้ ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกันยายนลดลง ลดลง 4.97 ดอลลาร์ หรือ 6.8% ปิดที่ 68.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม ปีนี้
 
 
อ่านข่าว

ตลาดหุ้นโตเกียว-เอเชียเช้านี้ร่วงตามดาวโจนส์