HoonSmart.com>>“ไทยพาณิชย์” ประกาศความร่วมมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับสตาร์ทอัพสัญชาติเกาหลี “FinShot” เจ้าของแอปพลิเคชัน “CoinShot” เปิดตัวบริการรับเงินโอนจากเกาหลีใต้สู่ไทยแบบเรียลไทม์แล้ววันนี้ ! รองรับการเติบโตของธุรกรรมการเงินทั่วโลก
นายธนวัฒน์ กิตติสุวรรณ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน GTS and Ecosystems ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) กล่าวว่า ธนาคารเล็งเห็นว่าปัจจุบันความต้องการในการทำธุรกรรมการเงินระหว่างประเทศมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงได้จับมือเป็นพันธมิตรกับสตาร์ทอัพสัญชาติเกาหลี “FinShot” เจ้าของแอปพลิเคชัน “CoinShot” เปิดให้บริการโอนเงินระหว่างประเทศจากประเทศเกาหลีใต้มาสู่ผู้รับในประเทศไทยแบบเรียลไทม์ สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ไม่ต้องไปสาขา พร้อมค่าบริการที่ถูกกว่า และวงเงินการโอนเงินที่สูงขึ้น สามารถทำธุรกรรมการเงินด้วยตนเองได้ง่าย ๆ ตลอด 24 ชม.
โดยธนาคารไทยพาณิชย์ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการกระจายเงินเข้าสู่บัญชีธนาคารผู้รับโอนในประเทศไทยแบบเรียลไทม์ จากความร่วมมือในครั้งนี้ ธนาคารคาดหวังว่าจะสามารถช่วยยกระดับประสบการณ์การทำธุรกรรมรับเงินโอนต่างประเทศแบบไร้รอยต่อให้กับลูกค้า อีกทั้งช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการที่อาศัยอยู่ต่างประเทศให้สามารถโอนเงินกลับมายังประเทศไทยได้ง่ายและทันต่อความต้องการ พร้อมตอบโจทย์ทางด้านการทำธุรกิจ
นายพาร์ค โน ฮยอน (Park Norman) ประธานกรรมการบริษัท FinShot กล่าวว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในธนาคารชั้นนำของประเทศไทย ทาง “CoinShot” ดีใจที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศเกาหลีใต้สามารถเข้าถึงระบบการเงินของเกาหลีได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น ก้าวข้ามผ่านขีดจำกัดทางด้านภาษา และระบบการเงินในประเทศที่อาจดูซับซ้อน ไม่คุ้นชินสาหรับชาวต่างชาติในต่างแดน ทางเรามุ่งมั่นที่จะพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเงินใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องผ่านแอปพลิเคชัน “CoinShot” เพื่อตอบโจทย์ชาวต่างชาติในเกาหลีที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงตอบสนองความต้องการในการทำธุรกรรมระหว่างประเทศที่กำลังเติบโตเป็นอย่างมากในปัจจุบัน โดยในอนาคตทางบริษัทมีแผนที่จะร่วมเป็นพันธมิตรกับบริษัทและสถาบันการเงินชั้นนำอีกหลากหลายประเทศ เพื่อส่งเสริมนโยบายของทางภาครัฐที่จะผลักดันพัฒนาให้เกาหลีใต้เติบโตเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย”