HoonSmart.com>>ttb analytics ประเมิน นโยบายการคลังและทิศทางการเงินสหรัฐฯ หนุนดอลลาร์แข็งค่าระยะยาว ส่วนค่าเงินบาทอ่อนค่าทะลุ 34 บาท ในปีหน้า
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี หรือ ttb analytics ประเมินทิศทางสกุลเงินดอลลาร์มีแนวโน้มแข็งค่าระยะยาว ในช่วง 1 – 2 ปีข้างหน้า เนื่องด้วย เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา มีทิศทางการฟื้นตัวดีกว่าเศรษฐกิจภูมิภาคอื่นทั่วโลก จากการสนับสนุนของมาตรการการคลัง ผ่านการกระตุ้นการใช้จ่ายและการลงทุนเชิงโครงสร้างขนาดใหญ่ ส่งผลให้แนวทางการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) มีแนวโน้มตึงตัวมากขึ้น จากแผนการปรับลดการซื้อสินทรัพย์ (QE tapering) และปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายในอนาคต ทำให้สกุลเงินดอลลาร์น่าสนใจกว่าสกุลเงินอื่น แต่ค่าเงินบาทไทยและเงินเอเชียอ่อนค่าต่อเนื่อง เช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นในช่วงปี 2556-2558
และเมื่อพิจารณาถึงปัจจัยภายในประเทศในอนาคต พบว่า ความเสี่ยงจากการระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวช้ากว่าเศรษฐกิจอื่นทั่วโลก โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว แม้มีโครงการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่ในภาพรวมต้องใช้เวลาถึง 2 ปี กว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะฟื้นตัวใกล้เคียงระดับเดิมก่อนการระบาด ยิ่งไปกว่านั้น การฉีดวัคซีนภายในประเทศที่ล่าช้า อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของชาวต่างชาติในด้านการลงทุนและดำเนินธุรกิจ จึงทำให้ประเทศไทยมีแรงสนับสนุนเพียงเล็กน้อยต่อการแข็งค่าของเงินบาทจากกระแสเงินทุนไหลเข้า
ttb analytics จึงประเมินว่าการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลให้ค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าไปจนถึง 33.50 – 34.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงกลางปี 2565 และค่าเงินบาทอาจมีแนวโน้มอ่อนค่าเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอีก จนถึงสิ้นปี 2566 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีการคาดการณ์ถึงการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯในอนาคต