กกร.ลดประมาณการจีดีพีปีนี้เหลือโต 0-1.5%

HoonSmart.com>>กกร.ปรับลดประมาณการจีดีพีไทยปีนี้เหลือ ขยายตัว 0- 1.5% จากเดือนมิ.ย. ที่คาดโต 0.5- 2% ส่วนการส่งออกปรับเพิ่มเป็นขยายตัว 8 -10% จากเดิมที่คาดโต 5-7% พร้อมขอให้รัฐบาลเร่งซื้อ การจายและใช้ประโยชน์จากศูนย์ฉีดวัคซีนทั้ง 25 แห่ง

นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย ในฐานะประธานในที่ประชุมคณะกรรมการร่วม 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และสมาคมธนาคารไทย กล่าวภายหลังการประชุมประจำเดือน ก.ค.ว่า กกร.ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 64 เป็นขยายตัวได้ในกรอบ 0 – 1.5% จากเดือนมิ.ย.64 คาดว่าจะเติบโตได้ 0.5 – 2% ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโควิด-19 การเร่งการฉีดวัคซีนและมาตรการเพิ่มเติมของรัฐบาล

ด้านการส่งออก กกร. ปรับเพิ่มประมาณการการส่งออกในปี 2564 คาดว่าจะขยายตัว 8 – 10% จากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวดีกว่าคาด ภายใต้เงื่อนไขสามารถควบคุมการระบาดในกลุ่มแรงงานภาคอุตสาหกรรมได้ และการฉีดวัคซีนให้แรงงานภายใต้ ม.33 ได้ทั่วถึง ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะอยู่ในกรอบ 1 – 1.2%

“เศรษฐกิจไทยยังเผชิญความเสี่ยงค่อนข้างมากจากการระบาดระลอกใหม่ที่รวดเร็วและรุนแรง กระทบต่ออุปสงค์ในประเทศ แม้ว่าเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวชัดเจนขึ้นต่อเนื่องจะส่งผลดีต่อแนวโน้มส่งออกของไทยในระยะต่อไป ที่ประชุม กกร. จึงปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2564” นายผยง กล่าว

ส่วนข้อเสนอของ กกร.ในเดือนนี้
1.กกร.ขอเสนอให้ บสย.เพิ่มวงเงินค้ำประกันให้แก่ลูกหนี้ของธนาคาร และจัดกลุ่มลูกหนี้ที่เป็น NPL ที่ได้รับผลกกระทบจากโควิด-19 แยกจากลูกหนี้ NPL ทั่วไป รวมไปถึงการยกเว้นค่าธรรมเนียมค้ำประกันในปีที่ 1-3 เพื่อลดภาระให้ผู้ประกอบการ นอกจากนี้ การให้ความช่วยเหลือ SME ภายใต้โครงการ Faster Payment ของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยให้ผู้ประกอบการได้รับการชำระเงินค่าสินค้าได้เร็วขึ้นภายใน 30 วัน

2.ขอให้รัฐบาลใช้ประโยชน์จากการเปิดศูนย์ฉีดวัคซีนทั้ง 25 แห่ง ให้เต็มประสิทธิภาพเพื่อลดผลกระทบในภาพรวม โดยภาคเอกชนพร้อมที่จะช่วยรัฐบาลในการเร่งฉีดและกระจายวัคซีนให้ถึงมือประชาชนให้เร็วที่สุดเพื่อความปลอดภัยของประชาชน

3.ควรเร่งแผนการจัดหาวัคซีนและมีจุดยืนชัดเจนทางเลือกเป็นวัคซีนเข็มที่ 3 เพื่อพลิกสถานการณ์สร้างความเชื่อมั่นและความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

4. ขอให้จัดสรรวัคซีนสำหรับภาคอุตสาหกรรมเพื่อรักษาความสามารถในการส่งออกสินค้า
5.สนับสนุนให้ประเทศไทยต้องดำเนินการในการพัฒนาระบบ Digital Vaccine Passport เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดประชุม APEC 2022
6.กกร. สนับสนุนการพัฒนากองเรือของชาติ เพื่อส่งเสริมเรือที่เป็นของบริษัทจดทะเบียนในประเทศไทยและขอให้รัฐบาลจัดตั้งคณะทำงานเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนากองเรือของชาติ ซึ่งมี ภาคเอกชน โดย กกร. เข้าไปมีส่วนร่วม