กสิกรไทยคาดมาตรการกึ่งล็อกดาวน์กระทบ”ธุรกิจก่อสร้าง-อาหาร”4 หมื่นลบ.

HoonSmart.com>>ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดมาตรการกึ่งล็อกดาวน์ 6 จังหวัดสีแดงเข้ม กระทบธุรกิจก่อสร้างและยอดขายร้านอาหารและเครื่องดื่มประมาณ 40,000 ล้านบาท หรือ 0.25% ของจีดีพี

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มีมุมมองต่อประเด็นมาตรการกึ่งล็อกดาวน์ที่ให้มีการหยุดงานก่อสร้างโดยเน้นไปที่โครงการขนาดใหญ่ อย่างน้อย 30 วัน ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) 6 จังหวัด รวมถึงการจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มที่ให้เปิดดำเนินการได้เฉพาะการนำกลับไปบริโภคที่อื่นเท่านั้น โดยเน้นวิเคราะห์ผลกระทบต่อธุรกิจก่อสร้างและธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม ดังนี้

มาตรการกึ่งล็อกดาวน์ เป็นความพยายามของภาครัฐที่ออกมาเพื่อจะควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ท่ามกลางความกังวลต่อจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันที่ไม่ลดลงและอาจมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ มาตรการบรรเทาผลกระทบต่อลูกจ้างและนายจ้าง ก็สะท้อนถึงเจตนาที่ภาครัฐต้องการให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้รับการชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นผ่านการออกแบบแนวทางให้ครอบคลุมมากที่สุดเท่าที่จะพอทำได้ ณ ขณะนี้

อย่างไรก็ตาม ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า กลไกความช่วยเหลือลูกจ้างและนายจ้างทั้งในและนอกระบบประกันสังคมดังกล่าว ยังมุ่งเน้นไปที่กลุ่มแรงงานและธุรกิจที่เป็นปลายทางของงานก่อสร้างและบริการร้านอาหารและเครื่องดื่มเป็นหลัก ซึ่งแน่นอนว่ากลุ่มเหล่านี้ได้รับผลกระทบเป็นอันดับแรก แต่ยังคงมีกลุ่มอื่นๆ ในห่วงโซ่ธุรกิจหรือซัพพลายเชนที่ก็ได้รับผลกระทบตามมาเป็นทอดๆ จากการหยุดกิจกรรมที่กำหนดไปอย่างน้อย 1 เดือน เช่น เมื่อมูลค่างานก่อสร้างและยอดขายร้านอาหารและเครื่องดื่มหายไป

กลุ่มซัพพลายเออร์ที่เกี่ยวข้องในธุรกิจก่อสร้างและธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม ได้แก่ ผู้ค้าส่งค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง ผู้ค้าส่งค้าปลีกวัตถุดิบอาหาร ผู้ให้เช่าพื้นที่เปิดกิจการร้านอาหาร ผู้ให้บริการด้านการขนส่ง เป็นต้น ก็จะไม่ได้รับเม็ดเงินที่เดิมควรจะได้รับหรือมีปัญหาสภาพคล่องได้เช่นกัน
อีกทั้ง สำหรับธุรกิจก่อสร้างยังมีประเด็นเฉพาะด้านกฎหมายเกี่ยวกับการส่งมอบงาน ซึ่งหากล่าช้า จะมีบทลงโทษเป็นค่าปรับ ถูกขึ้น Black List หรือถึงขั้นถูกดำเนินคดีฟ้องร้อง นั่นหมายความว่า ผลกระทบที่มีต่อธุรกิจจะมากกว่าเพียงมูลค่างานที่หายไปเท่านั้น

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังมองว่า สถานการณ์ข้างหน้ายังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนสูง หากเหตุการณ์คลี่คลายลง โดยจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันปรับตัวลดลงในช่วง 1 เดือนข้างหน้า ผลกระทบคงเป็นเพียงภาวะชั่วคราว แต่ถ้าเหตุการณ์ลากยาวออกไปหรือจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันไม่ลดลงตามที่คาด ก็มีความเสี่ยงที่มูลค่าความเสียหายจะมากขึ้นและครอบคลุมผู้ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้างมากขึ้น

ในเบื้องต้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ผลกระทบสุทธิในด้านมูลค่าธุรกิจก่อสร้างและยอดขายร้านอาหารและเครื่องดื่มใน 6 จังหวัด (กทม.และปริมณฑล) จากมาตรการกึ่งล็อกดาวน์ในกรอบเวลา 1 เดือน อาจคิดเป็นเม็ดเงินราว 40,000 ล้านบาท หรือ 0.25% ของจีดีพี โดยมาตรการเยียวยาของภาครัฐมีส่วนช่วยบรรเทาผลกระทบในระดับหนึ่ง