“นักรบ” นักปราบโจรดิจิตอล บนโลก “ไซเบอร์ ซีเคียวริตี้”

HoonSmart.com>>“นักรบ เนียมนามธรรม” ฝันของผม SECURE ต้องเป็นที่ 1 เบ็ดเสร็จเด็ดขาดของโลกไซเบอร์ซีเคียวริตี้ “  ฝันที่กำลังจะเป็นจริง กำลังจะเกิดขึ้นกับผู้ชายคนนี้ “นักรบ” ผู้ที่ได้ชื่อว่า เป็นนักฆ่าโจรดิจิตอล บนโลกไซเบอร์ ซีเคียวริตี้

นักรบ เนียมนามธรรม

“นักรบ เนียมนามธรรม” หรือมาร์ค ผู้ก่อตั้ง บริษัท เอ็นฟอร์ซ ซีเคียว (SECURE) บริษัทคนไทยเพียงบริษัทเดียว ที่เห็นโอกาสการเป็นตัวแทนจำหน่าย ผลิตภัณฑ์โซลูชั่น การรักษาความปลอดภัยทางเทคโนโลยีในโลกไซเบอร์  ซีเคียวริตี้ (Cyber security) ขณะที่คู่แข่งระดับท็อปไฟว์ ประเภทเดียวกันนี้ อีก 4 บริษัทเป็นบริษัทต่างชาติ

เป้าหมายที่แน่วแน่ไม่เคยเปลี่ยนดีเอ็นเอ และเป็นความฝันของ “นักรบ” คือโฟกัสชัดเจนไปที่ การรู้จริงในธุรกิจซีเคียวริตี้

โอกาสของ “นักรบ” เมื่อ 15-16 ปีที่ผ่านมา เริ่มตั้งแต่จบการศึกษาปริญญาตรีวิศวะการไฟฟ้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า พระนครเหนือ จากนั้นเข้าทำงานเป็นเอนจิเนีย ดูแลระบบไอที กับบริษัท ซูมิโตโม ทำอยู่ 3 ปี ก่อนออกไปอยู่บริษัทค้าส่งไอทีของสหรัฐ อีก 3 ปี แล้วเปลี่ยนสายงาน มาอยู่บริษัททำโทรศัพท์เคลื่อนที่

กระทั่งสุดท้าย การร่วมงานกับบริษัท Trend Micro บริษัททำซีเคียวริตี้ใหญ่ของโลก โดย “นักรบ” เป็นที่ปรึกษาเทคนิคในเมืองไทย และดูอาเซียนทั้งหมด รวมทั้งอินเดีย เป็นจุดเริ่มต้นที่เข้าสู่วงการไซเบอร์ ซีเคียวริตี้ ในช่วง 2 ปีสุดท้ายของการเป็นมือปืนรับจ้าง

ได้เริ่มงานกับบริษัท Trend Micro บริษัททำซีเคียวริตี้ใหญ่ของโลก โดย “นักรบ” เป็นที่ปรึกษาเทคนิคในเมืองไทย และดูอาเซียนทั้งหมด รวมทั้งอินเดีย เป็นจุดเริ่มต้นที่เข้าสู่วงการไซเบอร์ ซีเคียวริตี้ ในช่วง 2 ปีของการทำงาน

ช่วง 2 ปีของการทำงาน  “นักรบ” เดินทางไปประเทศต่าง ๆ และได้พบโอกาส เมื่อได้พบกับคู่ค้า ที่ต้องการหาตัวแทนขายผลิตภัณฑ์ในไทย และให้ “นักรบ” ช่วยหา เขาเห็นโอกาส จึงออกมาตั้งบริษัท “ เอ็นฟอร์ซ ซีเคียว” ตั้งแต่บัดนั้น

“นักรบ” เล่าว่า 15 ปี ของการตั้งสตาร์ทอัพ  ต้องสู้กับต่างชาติ ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไซเบอร์ กระทั่งเพื่อนที่ชวนมาร่วมงาน ไม่เชื่อว่า เขาจะเป็นซีอีโอ ที่เก่งที่สุด แม้ว่า “นักรบ” จะเป็นเอนจิเนียที่เก่งสุด คำพูดของเพื่อนไม่ได้ทำให้เขาท้อถอย แต่มุ่งมั่นทำตามความฝันที่ไม่เคยเปลี่ยนของเขากระทั่งทุกวันนี้

หลังจากทำธุรกิจสตาร์ทอัพ ของตัวเอง จากพรรคพวกที่ชวนกันออกมาตั้งบริษัทไม่กี่คน  เป็นตัวแทนขายผลิตภัณฑ์ป้องกันภัยในโลกไซเบอร์ หรือความปลอดภัยทางคอมพิวเตอร์ ลูกค้าเพียงไม่กี่ราย  ด้วยความชำนาญและเชี่ยวชาญในธุรกิจ ทำให้ “นักรบ” สามารถนำพาองค์กร ขึ้นมาติด 1 ใน 3 ของบริษัทที่มียอดขายสูงสุดในไทย ในช่วง 8 ปีแรกของการทำธุรกิจ

” พอเริ่มรบชนะ เป็นเบอร์ 3-4  เมื่อ 6 ปีก่อน ผมก็เริ่มคิดเข้าตลาดหุ้น ผมฝันและเดินตามฝัน ให้เป็นที่ 1 ในโลกไซเบอร์ ซีเคียวริตี้ เบ็ดเสร็จเด็ดขาด เพราะถ้าเราเป็นที่ 1 คนไทยจะภูมิใจ เราสู้กับต่างชาติได้ และสิ่งที่ผมอยากบอก คือ กำไรทุกบาท ทุกสตางค์ ของคนไทย ยังอยู่ที่เมืองไทย”

ปัจจุบัน SECURE เป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ซีเคียวริตี้ ระบบความปลอดภัย จำนวน 14 แบรนด์จากสหรัฐ  ความต่างของ SECURE เทียบกับคู่แข่งต่างชาติ 4 ราย คือ 1 แน่นอนว่าเป็นบริษัท คนไทย ฝีมือไม่แพ้ต่างชาติ ,  มีทีมเอนจิเนีย 30 คน หรือกึ่งหนึ่งของพนักงานทั้งหมด 70 คน มีทีมขาย ทีมการตลาด ทีมสนับสนุนเทคนิคที่มีความชำนาญระบบ ไว้ซัพพอร์ตลูกค้า เพราะเงินอย่างเดียว ไม่สามารถเป็นตัวแทนขายผลิตภัณฑ์ซีเคียวริตี้ได้

สินค้าส่วนใหญ่ของ SECURE ขายให้กับผู้รับเหมาติดตั้งระบบ หรือ B2B (บิซิเนส ทู บิซิเนส ) มีลูกค้า 160 ราย ผู้ใช้ 650 ราย ซึ่งบริษัททำระบบ พัฒนาระบบ เทคโนโลยี ในตลาดหลักทรัพย์เกือบทั้งหมด เป็นลูกค้า SECURE

ปี 2563 ที่ผ่านมา ซีเคียว ฯ มียอดขาย 637 ล้านบาท ปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 15%

“นักรบ” ยังให้ความสำคัญกับงาน วิจัย-พัฒนาผลิตภัณฑ์ ป้องกันโจรคุกคามโจมตีภัยไซเบอร์ โดยจะนำเงินจากการเพิ่มทุน ลงทุนสร้าง Lab ไซเบอร์ ซีเคียวริตี้ ถือเป็นจุดต่างที่คู่แข่งไม่ทำผลิตภัณฑ์เอง , เพิ่มพนักงาน และพัฒนาทักษะความเชี่ยวชาญพนักงาน รวมทั้งเป็นทุนหมุนเวียน ตลอดจนลงทุนต่อยอดธุรกิจซีเคียวริตี้ เพื่อการเติบโต

“หุ้น SECURE เป็นหุ้นเติบโต และมีอนาคตเติบโตไปกับตลาดไซเบอร์ ซีเคียวริตี้ ที่ยังไปได้ตลอด เพราะโลกไซเบอร์ ยังเป็นเหยื่อของการถูกแฮกเกอร์ หรือภัยคุกคามคอมพิวเตอร์เยอะมาก ” นักรบกล่าว ในที่สุด