HoonSmart.com>>”เซ็นทรัลพัฒนา” ยอมรับสนใจซื้อสยามฟิวเจอร์ดีเวลอปเมนท์ อยู่ระหว่างศึกษาข้อมูล ส่วน SF แจงยังไม่ได้รับแจ้งใดๆเรื่องการขายหุ้นของบริษัท บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส-เอเซีย พลัส คงคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น CPN เป้า 58 บาท ด้าน SF ราคาพุ่งเกินพื้นฐานแนะระมัดระวังลงทุน
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) ชี้แจงว่า บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาข้อมูล เรื่องซื้อกิจการของบริษัท สยามฟิวเจอร์ดีเวลอปเมนท์ (SF) ปัจจุบันยังไม่มีข้อตกลงใด ๆ
ด้านบริษัทสยามฟิวเจอร์ดีเวลอปเมนท์ ชี้แจงว่าบริษัทยังไม่ได้รับแจ้งใดๆเรื่องการขายหุ้นของบริษัท
บริษัทหลักทรัพย์ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) มองว่าสินทรัพย์ของ SF โดยเฉพาะเมกาบางนาเป็นสินทรัพย์ที่ดี และมีโอกาสสร้างมูลค่าเพิ่มในระยะยาว อย่างไรก็ตาม ต้องรอดูรายละเอียดชัดเจนเรื่องราคาซื้อขายและเงื่อนไขต่างๆเพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าบริษัทจะมีการชี้แจงในเร็วๆนี้
ทั้งนี้มีข่าวตามสื่อว่า CPN มีแผนเข้าซื้อกิจการ SF ผ่านกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง MAJOR ที่ถืออยู่ทั้งหมด 630.66 ล้านหุ้น หรือ 29.58% ในราคาหุ้นละ 12 บาท หลังจากนั้นเมื่อ CPN ได้สัดส่วนหุ้นมาเกิน 25% ทำให้จะมีการทำ Tender Offer หุ้น SF ที่เหลืออีก 70.42% คาดสรุปดีลช่วงประมาณกลางเดือน ก.ค. นี้
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส มองว่า หาก MAJOR ขายหุ้นได้ตามข่าว คาดว่า MAJOR จะมีกำไรจากการขายหุ้นก้อนใหญ่หลังภาษีราว 2.5 พันล้านบาท คิดเป็น 2.8 บาท/หุ้น (จากต้นทุนที่บันทึกในบัญชีราว 7 บาท/หุ้น) ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่บริษัทจะนำบางส่วนมาจ่ายปันผล ทั้งนี้ราคาหุ้น MAJOR ปรับขึ้นแล้วราว 30% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา
สำหรับราคาหุ้น SF เมื่อวานนี้ได้ปรับขึ้นมาที่ 11 บาท ใกล้กับราคาที่ CPN จะซื้อตามข่าวที่ 12 บาท ด้าน CPN ปัจจุบันเราแนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 58 บาท โดยธุรกิจระยะสั้นได้รับผลกระทบจากโควิดระบาดระลอกที่ 3 แต่ระยะยาวยังไปได้ดี
ด้านบล.เอเซีย พลัส (ASPS) มองประเด็นดังกล่าวยังคงต้องติดตามบทสรุปต่อไปว่าดีลนี้ CPN จะมีการลงทุนจริงหรือไม่ หากจริงจะมีสัดส่วนเท่าไร โดยประเมินความน่าสนใจของ CPN ต่อ SF น่าจะเป็นศักยภาพของศูนย์การค้าเมกะ บางนา (SF ถือ 49%) มากกว่าผลประกอบการของ SF ซึ่งอิงตามกำไร (ตามวิธีราคาทุน) คิดเป็น 5% ต่อกำไรของ CPN ถือว่าไม่ได้มีนัยฯ
บล.เอเซีย พลัส คงแนะนำซื้อสำหรับ CPN ที่ FV ปี 2564 เท่ากับ 58.00 บาท (อิง DCF-WACC 8%) แม้สถานการณ์โควิด-19 ล่าสุด จะกระทบต่อการดำเนินงาน แต่คาดเกิดขึ้นระยะสั้นและสามารถกลับมาฟื้นตัวเร็วเหมือนปีก่อน ภายใต้จุดแข็งในการเป็นผู้นำธุรกิจศูนย์การค้ามายาวนาน และรับมือได้ดีกับทุกปัญหา ทำให้บริษัทจะผ่านพ้นวิกฤติครั้งนี้ และพร้อมเติบโตมั่นคงในระยะยาว
ขณะที่ SF ด้วยราคาหุ้นที่เกิน FV ไปมาก หลังปรับขึ้นมากกว่าเท่าตัว ล่าสุดปิดเมื่อวานที่ 11 บาท (และใกล้ราคาเสนอขายตามข่าวที่ 12 บาท) ทำให้มีโอกาสเกิดแรงเทขายทำกำไรได้ จึงควรระมัดระวังในการลงทุน
อ่านขาว
