ส่งออกพ.ค.พุ่งแรง 41.59% แจกหุ้นเด่น แถมเงินบาทอ่อนหนุน

HoonSmart.com>> หุ้นไทยดิ่งนรก 22.15 จุด เสียวกู่ไม่กลับ โชคดีได้หุ้นยุโรป-ดาวโจนส์ล่วงหน้าช่วยดึงขึ้นปิดติดลบ 6.36 จุด ท่ามกลางตัวเลขส่งออกเดือน พ.ค. พุ่งแรงสูงสุดในรอบ 11 ปี นักวิเคราะห์ให้กลยุทธ์ช่วงสั้น เน้นกลุ่มส่งออกโต-เงินบาทอ่อนค่าหนุนกำไร บล.โนมูระฯเชียร์ 4 กลุ่ม เกษตรอาหาร-ชิ้นส่วนอิเล็กฯ-นิคมฯ-วัสดุก่อสร้าง คาดกระทบโรงไฟฟ้า สายการบิน บล.หยวนต้าแจก CPF, GFPT, BR, NER, STA, CCET, SAT, AH บล.ฟินันเซียไซรัสแนะ SAT, APCO, TU, SAPPE, GFPT, TFG บล.ทิสโก้ คาดหุ้นติดแคชบาลานซ์ เตือนระวัง

วันที่ 24 มิ.ย. 2564 หุ้นไทยเจอแรงขายหนักๆ เกือบตลอดทั้งวัน กดดัชนีลงไปลึกที่สุด 22.15 จุด บริเวณ 1,569.93 จุด แต่ในช่วงปลายตลาดมีแรงซื้อกลับ ดันดัชนีปิดที่ระดับ 1,585.72 จุด -6.36 จุด หรือ -0.40% มูลค่าการซื้อขาย 89,179.13 ล้านบาท ส่วนค่าเงินบาทยังคงอ่อนค่าลง ปิดที่ 31.87 บาทต่อดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนต่างชาติที่ขายออกมาหลายวัน พลิกกลับมาซื้อ 665.68 ล้านบาท นักลงทุนไทยซื้อต่อ 1,213.98 ล้านบาท แลกมัดสถาบันทิ้ง 1,865.24 ล้านบาท

ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงแรงกว่าภูมิภาค เพราะความกังวลข้อเสนอล็อกดาวน์หลังโควิด-19 ระบาดหนัก การเมืองกดดันและเศรษฐกิจอ่อนแรง แม้ว่ากระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขส่งออกเดือนพ.ค. 2564 ขยายตัวสูงสุดในรอบเกือบ 11 ปีที่ 41.59% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และหากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และอาวุธ ยุทธปัจจัย ขยายตัวถึง 45.87% ส่งผลให้การส่งออกในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ขยายตัวที่ 10.78% หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และอาวุธ ยุทธปัจจัย ขยายตัว 17.13% ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

สินค้าหลักที่ผลักดันการส่งออก ได้แก่ รถยนต์และส่วนประกอบ เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ น้ำมันสำเร็จรูป ผลิตภัณฑ์ยาง เม็ดพลาสติก เป็นต้น สอดคล้องกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เผยยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเดือน พ.ค. อยู่ที่ 79,479 คัน เพิ่มขึ้น 165.87% จากเดือน พ.ค.63 เพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงเนื่องจากเมื่อปีที่แล้วฐานต่ำ และเพิ่มขึ้น 50.30% จากเดือน เม.ย.64  ทำให้นักลงทุนเลือกซื้อหุ้นรายตัวและรายกลุ่มที่เติบโตตามการส่งออก  เช่น AH,TU

บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์การส่งออกปี 2564 ขยายตัวที่ 9.0% นับว่าต่ำกว่าที่ธปท. เพิ่งปรับเป้าส่งออกขึ้นจาก 10.0% เป็น 17.1% และปีหน้าลดจาก 6.3% เหลือ 4.9% เทียบกับปี 63 ติดลบถึง-19.4%

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า หุ้นไทยผันผวน ช่วงเช้าร่วงแรงกว่าภูมิภาค -17.53 จุด จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เร่งตัวขึ้น ทำให้เกิดความกังวลว่าเตียงโรงพยาบาลจะไม่เพียงพอ และช่วงบ่ายฟื้นตัวขึ้น ตามบรรยากาศการลงทุนทั่วโลก ที่อยู่ในแดนบวก เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจยุโรปรายงานออกมาได้ดี หุ้นสามารถรีบาวด์ขึ้นมาได้เล็กน้อย

ส่วนแนวโน้มของตลาดวันที่ 23 มิ.ย. คาดว่าจะตลาดจะแกว่งตัวเพื่อสร้างฐานใหม่ ประเมินกรอบเคลื่อนไหวที่ 1,570-1,600 จุด การลงทุนช่วงสั้นแนะนำหุ้นกลุ่มส่งออก แนะนำหุ้น SAT, APCO, TU, SAPPE ,GFPT และTFG

ด้านบล.โนมูระ พัฒนสิน มองหุ้นที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อนค่า โดยทุกๆ 1 บาท ดีต่อกลุ่มเกษตรอาหาร กำไรสุทธิเพิ่ม 3-1% ได้แก่ TU, CPF, ASIAN, NER, XO, SAPPE กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 3-2% แนะ SVI, HANA, KCE กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม  AMATA กลุ่มวัสดุก่อสร้าง แต่เป็นปัจจัยลบต่อกลุ่มการบินและ โรงไฟฟ้าที่มีหนี้ต่างประเทศสูง

บล.หยวนต้าแนะนำหุ้นเด่นส่งออก ประกอบด้วย CPF, GFPT, BR, NER, STA, CCET, SAT, AH

ด้านบล.ทิสโก้คาดการณ์หุ้นที่ติดเกณฑ์แคชบาลานซ์ นักลงทุนจะต้องวางเงินสดทั้ง 100% ก่อนสั่งซื้อหุ้นในสัปดาห์ ได้แก่ BWG, KWM, PLANET, PROEN, PSTC, SICT ส่วน BC, RBF, FLOYD-W1, ALL, DOD ยังต้องลุ้นว่าหนีพ้นหรือไม่