ASPS เปิดโผหุ้น “ได้-เสีย”บาทอ่อน หลังเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยเร็ว

HoonSmart.com>> “บล.เอเซีย พลัส” ชี้เฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด หนุนเงินดอลลาร์แข็งค่าแรงกดดันหุ้นกลุ่ม Commodity ส่วนเงินบาทอ่อนค่าแรงผลดีหุ้นกลุ่มส่งออก คาดแรงเก็งกำไรหุ้น KCE ,DELTA, HANA,AH, SAT, STA, STGT, NER, TFG, CPF,MCS

บริษัทหลักทรัพย์เอเซีย พลัส (ASPS) ออกบทวิเคราะห์สืบเนื่องจากการประชุม Fed ที่ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยฯเร็วกว่าเดิมที่คาด สิ่งที่เกิดขึ้นคือเงินไหลเข้าสู่ค่าเงินสกุล Dollar สะท้อน Dollar Index แตะ 92 จุด แข็งค่ามากสุดตั้งแต่ เม.ย 64 โดย Impact จาก Dollar ที่แข็งค่าๆ ฝ่ายวิจัย ASPS ประเมินผลกระทบ 2 ส่วน คือ

1.) ค่าเงินสกุลเงินต่างประเทศต่างๆ อ่อนค่าในเชิงเปรียบเทียบไปในในทิศทางเดียวกัน (ดังรูป) และมีแนวโน้มอ่อนค่าต่อ โดยเฉพาะค่าเงินบาท/ดอลลาร์อ่อนค่าอยู่ที่ 31.4 บาท อ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 1 เดือน นับตั้งแต่ต้นสัปดาห์ (Wtd) อ่อนค่าราว 1.2% ดีต่อภาคส่งออก และถือเป็น Sentiment เชิงบวก น่าจะทำให้เกิดการเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มส่งออกในวันนี้ (ดังตาราง) อาทิ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ KCE ,DELTA HANA , กลุ่มยานยนต์ AH, SAT กลุ่มเกษตรอาหาร STA, STGT, NER, TFG CPF กลุ่มส่งออกเหล็ก MCS

2.) ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ถูกกดดันจาก Dollar ที่แข็งค่าแรง และจากข่าวในช่วงกลางอาทิตย์นี้คือ ประเทศจีนประกาศว่าควบคุมราคาสินค้าโภคภัณ์ อาทิ ทองแดง อลูมิเนนียม จะใช้ทองแดงภายในประเทศแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ โดยรวมทั้งหมดถือเป็นปัจจัยกดดันสะท้อนได้จากเมื่อวานนี้ ราคา Soft Commodity ปรับลงแรงไปในทิศทางเดียวกัน (ดังรูป) อาทิ

• กากถั่วเหลือง, ถั่วเหลือง ปรับลงแรงราว 4-6% ASPS ประเมินเป็นบวกกับ TFG และ CPF และยังมีปัจจัยหนุนจาก ราคาหมูดีดตัวแรง จาก Supply ที่ลดลง เพราะรายย่อยได้รับผลกระทบจากโรคระบาด แนะนำซื้อ

• ราคาน้ำตาลดิบโลกอ่อนตัวลง 2.85% ถือเป็นลบต่อ KSL, KTIS, KBS และ BRR แต่ในทางตรงข้างถือจะเป็นบวกกับหุ้นกลุ่มเครื่องดื่ม อาทิ OSP, SAPPE, ICHI

• ราคาทองแดงปรับตัวลดลง 12.0 % จาก จุดสูงสุดในเดือนพฤษภาที่ผ่านมาที่ 1.0 หมื่นดอลลาร์สหรัฐฯ/ตัน ล่าสุดอยู่ที่ 9.4 พันดอลลาร์สหรัฐฯ/ตัน แต่ราคาทองแดงเฉลี่ยตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 9.0 พันดอลลาร์สหรัฐฯ/ตัน ยังสอดคล้องกับสมมติฐานราคาวัตถุดิบทองแดงเฉลี่ยปี 2564 ที่ฝ่ายวิจัยประเมินไว้ที่ 1.0 หมื่นดอลลาร์สหรัฐฯ/ตัน ถือเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะ ผลบวกต่อ KCE ที่มีต้นทุนทองแดงราว 10% ของต้นทุนทั้งหมด อย่างไรก็ตามด้วย Valuation ที่แพงเกินมูลค่าพื้นฐานไปแล้ว จนมี PER 32 เท่า จึงแนะนำเพียงเก็งกำไรในระยะสั้นเท่านั้น