HoonSmart.com>> บล.คิงส์ฟอร์ด คาดหุ้นผันผวนหลังเฟดเปลี่ยนนโยบายเงินเฟ้อ รอประเมินวัคซีนในประเทศเพียงพอหรือไม่ แนวรับดัชนี 1,610 – 1,620 จุด แนะทยอยซื้อหุ้นกลุ่ม Domestic Play รับผ่อนคลายเปิดร้านอาหาร
บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด มองแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ ดัชนี SET ผันผวนจากการเริ่มเปลี่ยนนโยบายการเงินของเฟ้อ และรอประเมินวัคซีนจะเพียงพอหรือไม่ วางแนวรับดัชนีที่ 1,610 – 1,620 จุด แนวต้าน 1,630 – 1,635 จุด แนะนำทยอยซื้อกลุ่ม Domestic Play เช่น CENTEL, MINT, M, AU, ZEN รับ ม.ผ่อนคลายเปิดร้านอาหาร
ปัจจัยในประเทศ แถลงการณ์นายก ฯ วานนี้ตั้งเป้าเปิดประเทศภายใน ต.ค.นี้และประชุม ศบค.วันพรุ่งนี้จะพิจารณาผ่อนคลายล็อกดาวน์บางจังหวัด , การเปิดร้านอาหาร รวมถึงโครงท่องเที่ยวนำร่องภูเก็ต
สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ แนะซื้อเก็งกำไร WHA ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 3.90 บาท แนวโน้มผลประกอบการจะฟื้นตัวดีขึ้นในช่วง 2H64 จากการกลับมาของยอดโอนที่ดินช่วงปลายปี ตามสถานการณ์ COVID-19 ในประเทศที่ดีขึ้นหลังการปูพรมฉีดวัคซีน โดยมีเป้าหมายการขายที่ดินในปีนี้ที่ 1,030 ไร่ แบ่งเป็นนิคมในไทย 725 ไร่ และเวียดนาม 305 ไร่
ขณะที่รายได้จากการให้เช่าพื้นที่และสาธารณูปโภคมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องจาก 2Q64 หลังจากผ่านการปิดซ่อมโรงไฟฟ้า Gheco-One เสร็จแล้วใน 1Q64 และลูกค้ามีความต้องการใช้น้ำมากขึ้น รวมถึงความชัดเจนเรื่องแผนการขาย Asset เข้ากองฯ WHART ขนาด 1.8 แสนตารางเมตร มูลค่าราว 5.5 พันล้านบาท รับรู้เป็นกำไรราว 1.5 พันล้านบาท ในช่วง 4Q64 รวมถึงยังเตรียมเกาะกระแสศึกษาการออก Token เป็นอีกช่องทางในการระดมทุน
นอกจากนี้แนะซื้อเก็งกำไร MEGA ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 43.25 บาท แนวโน้มการดำเนินงานปีนี้ยังคงสดใส โดย Covid-19 ส่งผลให้ ผู้บริโภคเกิด awareness มีความต้องการอาหารเสริม/ ผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพ สูงขึ้น ขณะที่คาดว่าสถานการณ์การเมืองในเมียนมาจะไม่กระทบยอดขายมากนัก เนื่องจากสินค้าของ MEGA* มีความจำเป็น สำหรับการเติบโตระยะยาว ยังคงเน้นตปท. โดยเฉพาะอินโดนีเซีย ที่บ.ได้ลงทุนใน PT Futamed Pharmaceuticals ปัจจุบันเริ่มขึ้นทะเบียนผลิตยาไปบ้างแล้ว และคาดว่าภายใน 2-3 ปีจะเห็นใบอนุญาตผลิตยาเพิ่มขึ้น
ด้านกระแสกัญชา-กัญชง บ.ได้เตรียมขอใบอนุญาตเพื่อจำหน่าย(ยังรอความชัดเจนด้านกฎหมาย) เบื้องต้นได้มีการเจรจากับบ.ที่จำหน่ายสารสกัด เพื่อนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์บ้างแล้ว ทั้งนี้ตลาดคาด EPS ปี64 และ ปี65 จะยังคงขยายตัวต่อเนื่องจากปี 63 ที่ 1.60 บาท/หุ้น มาอยู่ที่ 1.72 บาท/หุ้น, และ 1.91 บาท/หุ้น ตามลำดับ
