หุ้นปิดลบ 10 จุด ขายกลุ่มพลังงาน-แบงก์-ไฟแนนซ์ ต่างชาติทิ้ง 1.9 พันลบ.

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นปิดลบ 10.75 จุด หลังขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,636.10 จุด แรงกดดันจากหุ้นกลุ่มพลังงาน แบงก์ไฟแนนซ์ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1.9 พันล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 2.3 พันล้านบาท แนวโน้มวันพรุ่งนี้ คาดตลาดทรงตัวรอผลประชุมเฟด คาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,605-1,635 จุด หรืออาจมีจังหวะกระตุกขึ้นบ้าง จากการรีบาวด์ของหุ้นที่ปรับตัวลงในวันนี้ แนะนำหุ้นขนาดกลางเคลื่อนไหวดีกว่าหุ้นใหญ่ แนะ MAJOR-MEGA-CHAYO

ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 15 มิ.ย. 2564 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,622.31 จุด -10.75 จุด หรือ -0.66% มูลค่าการซื้อขาย 90,036.99 ล้านบาท

นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 1,963.57 ล้านบาท รองลงมานักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 295.26 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ขายสุทธิ 104.34 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 2,363.17 ล้านบาท

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ โดนแรงกดดันจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน และกลุ่มธนาคารกับไฟแนนซ์ ที่ปรับตัวลดลง อีกทั้งการปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้าน ทำให้นักลงทุนขายเพื่อลดความเสี่ยงออกมาในเบื้องต้น

ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารและไฟแนนซ์ ปรับตัวลดลง เนื่องจากปัจจัยที่ว่า นายกรัฐมนตรี พูดถึงประเด็นการที่ให้สถาบันการเงินหรือไฟแนนซ์ต่างๆ พิจารณาลดดอกเบี้ยสินเชื่อลง เพื่อช่วยเหลือปัญหาหนี้สินภายในประเทศ ทำให้วันนี้บรรยากาศการลงทุนของกลุ่มดังกล่าวไม่ค่อยดี ภาพรวมปรับลดลงมาค่อนข้างมาก

ส่วนแนวโน้มของตลาดหุ้นในวันที่ 16 มิ.ย. 2564 คาดว่าตลาดยังทรงตัว รอเลือกทิศทาง หลังจากผลกระทบประชุมเฟดออกในวันที่ 17 มิ.ย.นี้ ประเมินเคลื่อนไหวในกรอบ 1,605-1,635 จุด หรืออาจจะมีการรีบาวด์เกิดขึ้นของหุ้นที่ปรับลดลงในวันนี้ โดยแนะนำหุ้นขนาดกลาง คาดว่าจะเคลื่อนไหวได้ดีกว่าหุ้นขนาดใหญ่ แนะนำ MAJOR ,MEGA และCHAYO

5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่

KBANK ปิดที่ 125.00 บาท -5.00 หรือ -3.85% มูลค่าการซื้อขาย 5,427.33 ล้านบาท
GUNKUL ปิดที่ 4.24 บาท -0.18 หรือ -4.07% มูลค่าการซื้อขาย 3,561.77 ล้านบาท
PTT ปิดที่ 40.75 บาท -0.75 หรือ -1.81% มูลค่าการซื้อขาย 2,280.67 ล้านบาท
TASCO ปิดที่ 20.80 บาท +0.70 หรือ +3.48% มูลค่าการซื้อขาย 2,217.27 ล้านบาท
PTTGC ปิดที่ 59.25 บาท -1.25 หรือ -2.07% มูลค่าการซื้อขาย 2,076.08 ล้านบาท