บล.คิงส์ฟอร์คาดหุ้นอ่อนตัว “ไทยร่วมใจ” เลื่อนฉีดวัคซีนกระทบแผนเปิดเศรษฐกิจ

HoonSmart.com>> บล.คิงส์ฟอร์คาดหุ้นอ่อนตัวลงแนวรับ 1,620 – 1,628 จุด แนวต้าน 1,640 จุด “ไทยร่วมใจ” เลื่อนฉีดวัคซีนตั้งแต่ 15 มิ.ย. สะท้อนเสี่ยงจัดหาวัคซีนไม่พอ กระทบแผนเปิดเศรษฐกิจ แนะเลือกซื้อหุ้น Laggard “ADVANC, RATCH, BAM” กลุ่มค้าปลีก MAKRO, BJC, KK ได้ประโยชน์คนละครึ่งเฟส 3

บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด มองแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ ประเมินดัชนี SET มีโอกาสอ่อนตัวลง โดยมีแนวรับ 1,620 – 1,628 จุด แนวต้าน 1,640 จุด แนะนำ Selective Buy กลุ่ม Laggard เข่น ADVANC, RATCH, BAM และค้าปลีกได้ประโยชน์จากมาตรการคนละครึ่งเฟส 3 เช่น MAKRO, BJC, KK

ส่วนปัจจัยลบจะกระทบตลาดวันนี้ หลังไทยร่วมใจประกาศเลื่อนการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 15 มิ.ย. สะท้อนความเสี่ยงการจัดหาวัคซีนไม่เพียงพอ ซึ่งจะกระทบต่อแผนการเปิดเศรษฐกิจ

สัปดาห์ที่ผ่านมา DJIA -0.80%, S&P500 +0.40%, Nasdaq +1.90% โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับขึ้น หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 1.454% ,30 ปี ลดลงอยู่ที่ 2.143% แม้ว่ารายงานดัชนี CPI สหรัฐ พ.ค. +5.0% & เม.ย. +4.2% YoY และสูงกว่าคาด +4.7% เป็นระดับสูงสุดตั้งแต่ ส.ค. 51 แต่นักวิเคราะห์ประเมินเป็นปัจจัยชั่วคราว จากราคารถยนต์มือสองและราคาตั่วเครื่องบินปรับสูงขึ้น หลังการผ่อนคลาย มาตรการล็อกดาวน์และฐานราคาสินค้าต่ำผิดปกติในช่วงไวรัสระบาดปีก่อน โดยคาดการณ์เงินเฟ้อสหรัฐใน Q3 นี้มีแนวโน้มชะลอตัว เนื่องจากเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจเริ่มลดลง

ส่วนการประชุม ECB มีมติคงดอกเบี้ยรีไฟแนนท์ที่ 0 % และวงเงิน QE 1.85 ล้านล้านยูโร จนถึง มี.ค.65 โดยปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ยูโรโซนปีนี้ +4.6% จากเดิมคาด +4.4% YoY และประเทศหลัก ๆ ในยุโรปเริ่มผ่อนคลาย มาตรการล็อกดาวน์

อย่างไรก็ตามนักลงทุนรอการประชุมเฟดในวันพุธนี้ว่าจะส่งสัญญาณถอนมาตรการ QE หรือไม่ ซึ่งโดยรวมคาดเฟดน่าจะเริ่มส่งสัญญาณชัดเจนในการประชุมที่แจ็คสัน โฮล วันที่ 26 – 28 ส.ค. นี้

สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ กลุ่มเดินเรือเทกอง ซื้อเก็งกำไร PSL, TTA ตามการฟื้นตัวของของค่าระวางเรือเทกอง Baltic Dry Index (BDI) สามวันติดที่ระดับ 2,857 จุด +7% จากวันก่อนหน้า (ขณะที่กลุ่มเรือ Handysize, Supramax ซึ่งเป็นขนาดเรือส่วนใหญ่ของ PSL*, TTA* ยังปรับขึ้นต่อเนื่อง) ได้ Sentiment บวกจากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวหนุนความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์อย่างสินแร่เหล็ก, ข้าวโพด ถั่วเหลือง, ถ่านหินจากประเทศจีน ขณะที่ปัจจัยบวกทางฝั่งอุปทานมาจากจำนวนเรือเทกองที่จะเพิ่มขึ้นไม่มากในปี 64-65

หุ้น BEM ซื้อเก็งกำไร ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 10.00 บาท ถึงแม้ว่าปริมาณจราจรเฉลี่ยต่อวัน(ธุรกิจทางพิเศษ) และจำนวนผู้โดยสารต่อวัน(ธุรกิจรถไฟฟ้า) เดือนพ.ค.64 จะหดตัวอยู่ที่ 667.9 พันเที่ยวต่อวัน(-17.02%YoY, -20.29%QoQ) และ 90.0 พันเที่ยวต่อวัน(-24.37%YoY, -38.78%QoQ) ตามลำดับ แต่เมื่อพิจารณาร่วมกับ Low เดิมในเดือนเม.ย.63 จะพบว่าตัวเลขปริมาณจราจร/จำนวนผู้โดยสาร ในเดือนพ.ค.64 มีตัวเลขที่ดีกว่า สะท้อนให้เห็นถึงภาพการฟื้นตัวในปีนี้ นอกจากนี้ คาดว่าเดือนพ.ค.64 จะเป็นจุดต่ำสุดของปี และจะฟื้นตัวได้รวดเร็วสืบเนื่องจากกระจายวัคซีน Covid-19 ในช่วง 2H64 นี้

ทั้งนี้ตลาดคาด EPS ปี64 และ ปี65 ฟื้นตัวต่อเนื่องจากปี 63 ที่ 0.13 บาท/หุ้น มาอยู่ที่ 0.17 บาท/หุ้น, และ 0.27 บาท/หุ้น ตามลำดับ