KTAM Focus : ฉีดวัคซีนให้พอร์ตด้วย HEALTHCARE

โดย…ณัฏฐะ มหัทธนา
ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนและลูกค้าสัมพันธ์
บลจ.กรุงไทย

ราคาหุ้น Biogen +38% (7 มิ.ย.) หลังองค์การอาหารและยาสหรัฐ (FDA) อนุมัติยาอัลไซเมอร์ครั้งแรกในรอบ 18 ปี โดยตัวยา aducanumab ซึ่งบริษัทไบโอเทคสัญชาติอเมริกันใช้ชื่อการค้า “Aduhelm” ช่วยชะลออาการสมองเสื่อมอันเป็นสาเหตุเสียชีวิตอันดับ 7 ในปี 2020 ปัจจุบันประชากรสหรัฐกว่า 6 ล้านคนป่วยเป็นอัลไซเมอร์ และอาจพุ่งแตะ 13 ล้านคนในอีก 30 ปีข้างหน้า ขั้นตอนต่อๆไปยังมีความไม่แน่นอน ทว่าหากออกสู่ตลาดแล้วประสบความสำเร็จ Aduhelm ก็น่าจะสร้างรายได้หลายพันล้านดอลลาร์แก่ผู้คิดค้นอย่าง Biogen

หุ้นกลุ่มสุขภาพ (Health Care Sector) ถูกมองข้ามมานาน ตั้งแต่ต้นปี Health Care Select Sector SPDR Fund (XLV) +9.79% แพ้ดัชนี S&P 500 +13.08% นับเป็นเวลาหลายเดือนแล้วที่เงินลงทุนโถมเข้าใส่ “หุ้นวัฏจักร” (cyclical stocks: banks, energy, materials) แต่หมางเมิน “หุ้นปลอดภัย” (defensive stocks: utilities, staples, health care) ภายใต้ธีม “เปิดเศรษฐกิจ” อันเป็นผลจากการกระจายวัคซีนโควิดรวดเร็วกว่าคาดทั้งในสหรัฐและยุโรป

ข่าวอนุมัติยาตัวสำคัญเหมือนปลุกหุ้น Health Care ให้ตื่นจากหลับไหลในสัปดาห์ล่าสุด แถมปัจจัยมหภาคก็เริ่ม “เข้าทาง” ตลาดบอนด์ตอบรับข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐด้วย “ท่าพิสดาร” ยีลด์พันธบัตรอายุยาวดิ่งลงสวน CPI พุ่งเกินคาด… นักลงทุนส่วนใหญ่เซอร์ไพรส์ ***แต่ไม่ใช่เรา*** ปรากฏการณ์ดังกล่าวตรงกับที่เคยเขียนไว้ “เลิกกลัวเงินเฟ้อ” (23 พ.ค.)

ผลกระทบจาก “ฐานต่ำ” ช่วง lockdown ปีที่แล้วมีแนวโน้มซาลงในเดือนถัดๆไปน่าจะทำให้เงินเฟ้อ (YoY) ชะลอตัว ประกอบกับตลาดซึมซับความคาดหวังเงินเฟ้อสูงลิ่วมานานแล้ว “หุ้นวัฏจักร” ซึ่งพุ่งขึ้นมามากจึงตั้งอยู่บนความเสี่ยง เพราะราคาขายสินค้าของธุรกิจที่เหวี่ยงตามเศรษฐกิจจะขึ้นแรงๆได้ต้องอาศัยภาวะเงินเฟ้อสูง ดังนั้น พอเงินเฟ้อชะลอลงในไม่ช้านักลงทุนจะไขว่คว้าหาอะไร? คงหนีไม่พ้นหุ้นกลุ่มที่โดดเด่นเรื่อง “อำนาจกำหนดราคา” (pricing power) สามารถขึ้นค่าสินค้า/บริการโดยแทบไม่พึ่งพาวัฏจักรเศรษฐกิจ… ธุรกิจปัจจัยสี่อย่าง Health Care คือหนึ่งในนั้นแน่นอน

Health Care Sector ประกอบด้วยหลายกลุ่มย่อย: ยา (pharmaceuticals) เทคโนโลยีชีวภาพ (biotechnology) เครื่องมือแพทย์ (medical equipment) ประกันสุขภาพ (medical insurance) โรงพยาบาล คลินิก สถานดูแลผู้ป่วย/ผู้สูงอายุ (healthcare services) เวชสำอาง (cosmetics) เป็นต้น หุ้นกลุ่มนี้จึงมีความหลากหลายและแนวโน้มการเติบโตชัดเจน ด้วยปัจจัยสนับสนุนเชิงโครงสร้างหลายประการ เช่น คนอายุยืนขึ้น ประชากรสูงวัยมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น ความปลอดภัยด้านสุขภาพ/อาหาร เทคโนโลยีก้าวหน้าเร่งพัฒนาวิธีรักษาใหม่ๆ การใช้จ่ายด้านสุขภาพเพิ่มขึ้น ตลอดจนดีลควบรวมกิจการ (M&A) แนวโน้มเหล่านี้ยังคงสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจกลุ่ม Health Care อย่างยั่งยืนในระยะยาว

ภาพความเคลื่อนไหวของบางดัชนีย่อยใน Health Care Sector นับตั้งแต่ต้นปี (YTD) บอกเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจ ขณะบรรดาบริษัทยา (pharma) เผชิญแรงกดดันทางการเมืองและ biotech ปรับฐานหนักตามหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี แต่ healthcare services พุ่งทะยานชนะตลาด เพราะคนฉีดวัคซีนแล้วทยอยกลับมารับบริการด้านสุขภาพ เช่น ตรวจร่างกาย ทำฟัน วัดสายตา ฯลฯ หลังจากที่เคยเลื่อนออกไปในช่วงโควิดระบาดหนัก

***การลงทุนหุ้น Health Care ให้ได้ประโยชน์สูงสุดและมีการกระจายความเสี่ยงที่ดี ควรเลือกกองทุนสไตล์ diversified among subsectors นโยบายเปิดกว้างสามารถแสวงหาโอกาสลงทุนครอบคลุมทุกกลุ่มย่อย***

KTAM World Healthcare Fund (KT-HEALTHCARE-A) และ KTAM World Healthcare RMF (KT-HEALTHC RMF) ลงทุนใน Janus Henderson Global Life Sciences Fund (กองทุนหลัก) เน้นหุ้นของบริษัททั่วโลกซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับ Life Sciences ลงทุนสไตล์ diversified among subsectors สร้างสมดุล 3 กลุ่มใหญ่: Pharmaceuticals, Biotechnology และอื่นๆนอกจากสองกลุ่มแรก ผู้ลงทุนจึงสามารถรับโอกาสเติบโตสูงจากไบโอเทค ขณะรักษาคุณสมบัติสำคัญของ health care คือ “defensive growth” ไว้ได้อย่างลงตัว

ราคาหุ้นกลุ่มนี้ยังน่าดึงดูดมากเมื่อเทียบกับโอกาสโตระดับ megatrend เพราะปัจจัยระยะสั้นกดดันจากประเด็นราคายาและการอนุมัติที่ล่าช้าของ FDA ซึ่งขาดหัวเรือใหญ่ตัวจริง (backlog เยอะมาก = upside มหาศาล) ปัจจัยทั้งคู่มีแนวโน้มคลี่คลายถือเป็นตัวกระตุ้นราคาหุ้น (catalysts) ในระยะกลาง

คำเตือน: ความเห็นส่วนบุคคล ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน คู่มือการลงทุน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

บทความอื่นๆ
KTAM Focus : เลิกกลัวเงินเฟ้อ