HoonSmart.com>>แฟรงคลิน เทมเพิลตัน เผยมุมมองการลงทุนแห่งอนาคต ชี้การลงทุนตามแนวทาง ESG คือเทรนด์สำคัญ ขณะที่บล็อกเชนและโทเค็นสร้างการเปลี่ยนแปลงแรงสุดให้ตลาด
เมื่อเร็ว ๆ นี้ แฟรงคลิน เทมเพิลตัน (Franklin Templeton) ได้จัดการประชุมเชิงวิชาการ Franklin Templeton Thailand Investment Symposium แก่ลูกค้าชาวไทยเป็นครั้งแรก โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนชั้นนำมากมายจากแพลตฟอร์มการลงทุนที่หลากหลายมาร่วมนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับประเด็นการลงทุนต่าง ๆ ที่กำลังได้รับความสนใจในปัจจุบัน รวมไปถึงเผยถึงโอกาสและความท้าทายต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลกวิถีใหม่
เจนนี่ จอห์นสัน ประธานและซีอีโอของ Franklin Resources, Inc ได้สรุปมุมมองเกี่ยวกับการลงทุนในอนาคตไว้อย่างน่าสนใจ ดังนี้
บล็อกเชนและโทเค็นสร้างการเปลี่ยนแปลงรุนแรงสุด
การเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงที่สุดในแวดวงการบริหารสินทรัพย์ที่จะเกิดขึ้นก็คือ เทคโนโลยีบล็อกเชนและโทเค็น ซึ่งจะก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในเรื่องของการจัดเตรียมผลิตภัณฑ์และโครงสร้างพื้นฐานสำหรับบริการทางการเงิน ทั้งนี้ไม่ควรมองว่าบล็อกเชนจำกัดอยู่เพียงแค่สกุลเงินดิจิทัล เพราะที่จริงแล้ว บล็อกเชนจะเข้ามาปลดล็อคสินทรัพย์ต่าง ๆ ที่ในอดีตไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ในแง่ของการลงทุน
นำเสนอแค่ผลิตภัณฑ์การลงทุนไม่ work อีกต่อไป
อนาคตของการบริหารสินทรัพย์ นอกจากความต้องการเทคโนโลยีด้านการลงทุนที่เพิ่มมากขึ้น ลูกค้ายังมีความคาดหวังสูงขึ้นกับบทบาทหน้าที่ของผู้จัดการความมั่งคั่ง (Wealth Manager) ที่ต้องมีทักษะและให้คำปรึกษาในการลงทุนรูปแบบใหม่ ๆ ปรับเปลี่ยนได้ ไม่ใช่เพียงนำเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนเพียงอย่างเดียว
ESG (Environmental, Social and Governance) เทรนด์การลงทุนในอนาคต
ระยะยาว เราจะเห็นกลยุทธ์การลงทุนที่มีการบริหารจัดการอย่างจริงจัง โดยมีการพิจารณาถึงแง่มุมเรื่อง สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social and Governance – ESG) ในการตัดสินใจลงทุน ตัวอย่าง มีบริษัทจดทะเบียนหลายรายมีการนำข้อมูลด้าน ESG มาจัดทำรายงานความยั่งยืน (sustainability report) ควบคู่กับรายงานข้อมูลทางการเงิน เป็นต้น
ความปลอดภัยด้านไซเบอร์ คือ ความท้าทายสำคัญ
ผู้บริหารระดับซีอีโอทุกคนล้วนมีความกังวลเกี่ยวกับ “ความปลอดภัยทางไซเบอร์” กันถ้วนหน้า โดยติดตามความเคลื่อนไหวและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีด้านการลงทุนอย่างใกล้ชิด และต้องการเข้าใจทิศทางการเปลี่ยนแปลงในระดับอุตสาหกรรม
นอกจากมุมมองในภาพรวมของประธานและซีอีโอของ Franklin Resources แล้ว “สินเชื่อดิจิทัล” คือ หนึ่งในหัวข้อไฮไลต์สำคัญ ที่ได้รับการหยิบยกมาสนทนาในงานฯ
โรเจอร์ เบย์สตัน, CFA, รองประธานบริหารและกรรมการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนแบบ Quantitative และ Fintech, กลุ่มธุรกิจตราสารหนี้ – กลยุทธ์ด้านวิทยาศาสตร์ข้อมูลและสินเชื่อดิจิทัลของ Franklin Templeton ได้ให้มุมมองไว้ว่า
“สินเชื่อดิจิทัล คือสินเชื่อที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนที่ก่อนหน้านี้เคยเป็นธุรกิจหลักของธนาคาร ตัวอย่างเช่น สินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภค และสินเชื่อเพื่อธุรกิจรายย่อย สินเชื่อเหล่านี้แม้จะมียอดเงินต่ำแต่มีจำนวนมหาศาล อัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคอยู่ในระดับที่สูงมากและมีระยะเวลาการกู้ยืมที่สั้นกว่า ในแง่ของตราสารหนี้ เรามองว่าการลงทุนในส่วนนี้เป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงภายในระยะเวลาอันสั้น”
“Digital Lending ยังเป็นหนึ่งในโอกาสทางธุรกิจที่น่าสนใจมากและเปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้าร่วมในสินทรัพย์ที่มีอัตราผลตอบแทนที่ปรับด้วยค่าความเสี่ยง (Risk-Adjusted Return) ในระดับที่สูง เมื่อราว 3 ปีก่อน Franklin Templeton ได้ทำธุรกรรมกับ Random Forest บริษัทสตาร์ทอัพด้านการบริหารจัดการการเงิน ซึ่งช่วยให้เราเข้าใจและสามารถปรับใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และแมชชีนเลิร์นนิ่ง (Machine Learning) มาสร้างโปรแกรมการลงทุนที่สามารถเลือกซื้อสินเชื่อที่มีความเสี่ยงต่ำในเรื่องของการผิดนัดชำระ โดยกระบวนการทั้งหมดครอบคลุมด้วยคุณภาพที่แข็งแกร่งของสถาบัน เพราะนอกจากจะมีกระบวนการลงทุนที่ล้ำสมัยแล้ว ยังปฏิบัติตามกฎระเบียบและการจัดการความเสี่ยงระดับโลก และลงทุนตามแนวทาง ESG อย่างที่นักลงทุนทั่วโลกคาดหวัง” คุณโรเจอร์ กล่าวเพิ่มเติม
คาดการณ์ทิศทางในอนาคต?
อย่างไรก็ตามข้อมูล “สินเชื่อดิจิทัล” จะยังมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและเป็นประโยชน์ต่อการลดความเสี่ยง เพราะช่วยให้เรามีความเข้าใจที่ดีขึ้นเกี่ยวกับปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการผิดนัดชำระหนี้ ระบบชำระเงินดิจิทัลที่กำลังเติบโตและมียอดเงินเพิ่มมากขึ้น รวมถึงซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งไว้ในอุปกรณ์ของผู้บริโภคและในระบบการทำงานของธุรกิจขนาดเล็กจะให้ข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมด้านพฤติกรรมที่ผู้จัดการสินเชื่อสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลดังกล่าวนี้ได้
นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจประเภทต่างๆ มากมายที่ต้องการเปิดให้บริการสินเชื่อและเงินกู้ยืมเพื่อกระชับความสัมพันธ์กับลูกค้าที่มีอยู่ อันก่อให้เกิดความเสี่ยงอย่างมากต่อธนาคารและสถาบันการเงินที่มีอยู่ ณ ปัจจุบัน แต่เราคาดว่าแนวโน้มดังกล่าวจะยังคงดำเนินต่อไปอีกหลายปีก่อนที่จะเกิดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับโอกาสในการลงทุนด้านสินเชื่อดิจิทัลอย่างเป็นรูปธรรม
มุมมองเกี่ยวกับตลาดคริปโต (Crypto) ที่เกิดขึ้นใหม่
สตีเฟ่น โดเวอร์ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การตลาดของ แฟรงคลิน เทมเพิลตัน ระบุว่า “Franklin Templeton ไม่ได้ถือสกุลเงินดิจิทัลในพอร์ตการลงทุนใด ๆ และไม่ได้แนะนำให้ลูกค้าลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลโดยตรง แต่เงินดิจิทัลหรือคริปโตจำเป็นต้องมีคุณลักษณะที่รองรับในด้านความน่าเชื่อถือ เชื่อว่านักลงทุนสถาบันจะยังคงให้การสนับสนุนและนำเสนอเครื่องมือคริปโตและการลงทุนที่เกี่ยวข้อง เมื่อโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับทั้งในส่วนของแอปพลิเคชั่น ระบบแลกเปลี่ยน และระบบชำระเงินมีความก้าวหน้ามากขึ้น ในการที่จะเป็นคู่แข่งกับเงินทั่วไปที่ใช้อยู่ในปัจจุบันได้อย่างแท้จริง”
ตอนนี้เราอยู่ในช่วงที่มีการทดลองใช้นโยบายการเงิน โดยเรากำลังเปลี่ยนย้ายจากนโยบายการเงินแบบ Monetarism ซึ่งธนาคารกลางจะพยายามลดอัตราเงินเฟ้อและรัฐบาลพยายามจัดการกับภาวะขาดดุลงบประมาณไปสู่ทฤษฎีการเงินสมัยใหม่ซึ่งมีแนวโน้มที่จะขาดดุลเป็นจำนวนมากและใช้นโยบายการเงินที่กระตุ้นเศรษฐกิจอย่างกว้างขวาง และนั่นคือกรอบโครงสร้างที่ใช้สำหรับการพิจารณาสกุลเงินเหล่านี้
โดยทั่วไปแล้วผมมีความเห็นไปในทางบวกเกี่ยวกับอนาคตของสกุลเงินดิจิทัลซึ่งเป็นหลักทรัพย์ที่สามารถแลกเปลี่ยนได้ รวมไปถึงเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) ซึ่งช่วยตัดทอนคนกลางที่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมระหว่างผู้บริโภคกับผู้บริโภคหรือระหว่างองค์กรธุรกิจกับผู้บริโภค