“ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์” โชว์กำไรสุทธิไตรมาส 2/61 ทำสถิติสูงสุดใหม่ 965.56 ล้านบาท เติบโต 36.69% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รับอานิสงส์ COD โรงไฟฟ้า TG 6 และ TG 4 หนุน 6 เดือนแรกสดใส คาดครึ่งปีหลังโตต่อเนื่อง เตรียม COD โรงไฟฟ้า TG 7 และ TG 8 หนุนกำลังการผลิตติดตั้งรวมเพิ่มเป็น 440 MW
นายภัคพล เลี่ยวไพรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายบัญชีและการเงิน บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ (TPIPP) ผู้ประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงจากขยะ (RDF) และโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนทิ้งที่ใหญ่ที่สุดในไทยที่มุ่งเน้นความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 2/61 (เม.ย.-มิ.ย.2561) ว่า บริษัทฯ สามารถทำรายได้และกำไรเป็นสถิติสูงสุดใหม่ โดยมีรายได้รวม 1,976.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.00% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,300.51 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 965.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.69% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 706.36 ล้านบาท
ปัจจัยหลักของผลการดำเนินงานที่เติบโตได้ดีมาจากกำลังการผลิตติดตั้งที่เพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่อปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตและจำหน่ายได้ในไตรมาส 2/61 สามารถทำสถิติสูงสุดใหม่เช่นกัน โดยนับตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน 2561 ที่ผ่านมา โรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงจากขยะ 70 MW (TG 6) และโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนทิ้ง 30 MW (TG 4) รวมกำลังการผลิตติดตั้ง 100 MW ได้เริ่มผลิตไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายเชิงพาณิชย์ (COD) ให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยหรือ กฟผ. ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า PPA 90 MW โดยได้รับ Adder 3.50 บาทต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปีนับจากวันที่เริ่มต้นซื้อขายไฟฟ้า
จากปัจจัยดังกล่าวส่งผลดีต่อภาพรวมผลการดำเนินงานช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-มิ.ย.2561) ที่เติบโตได้ดี โดยมีรายได้รวม 3,414.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.19% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 2,563.58 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,719.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.39% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,404.86 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ สามารถผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและกำลังการผลิตติดตั้งที่เพิ่มขึ้นจากการ COD โรงไฟฟ้า TG 6 และ TG 4
นายภากร เลี่ยวไพรัตน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ TPIPP กล่าวว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายผลักดันผลการดำเนินงานเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง โดยจะมุ่งผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่โรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงจากขยะ-ถ่านหิน 70MW (TG 7) และโรงไฟฟ้าถ่านหิน 150 MW (TG 8) คาดว่าจะ COD ได้ในเดือนสิงหาคม และใน ไตรมาส 4 ของปีนี้ ตามลำดับ โดยจะจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่บริษัทแม่ (บมจ.ทีพีไอ โพลีน หรือ TPIPL) ซึ่งจะส่งผลให้มีกำลังการผลิตติดตั้งรวมเพิ่มขึ้นเป็น 440 MW จากปัจจุบันอยู่ที่ 220 MW
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนขยายการลงทุนธุรกิจโรงไฟฟ้าเพื่อสร้างการเติบโตที่ดี โดยให้ความสนใจเข้าร่วมประมูลโครงการโรงกำจัดขยะผลิตไฟฟ้าของ อบจ. และเทศบาล ต่างๆ ซึ่ง จะเริ่มเปิดให้เอกชนเข้าประมูลในปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า