CPALL ยันไม่เพิ่มทุน ขายหุ้นกู้ 6.6 หมื่นลบ. รับผลงาน Q2/64 นิ่ง

HoonSmart.com>> “ซีพี ออลล์” เตรียมเปิดขายหุ้นกู้ 7 ชุด วันที่ 11, 14-15 มิ.ย.นี้ วงเงินรวม 6.6 หมื่นลบ. แบ่งขายให้รายย่อย 3 ชุด  อายุ 5-10 ปี  ดอกเบี้ย 3-3.9% ต่อปี รายใหญ่-สถาบัน 4 ชุด  อายุ 2-12 ปี ดอกเบี้ย 1.53-4.2% เสริมแกร่งทางการเงิน นำไปชำระหนี้ -ลดความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน  ยันเพียงพอไม่เพิ่มทุน ด้านผลงานไตรมาส 2  ทรงตัว หลังโควิด-19 รอบใหม่กระทบ คาดครึ่งปีหลังฟื้นตามเศรษฐกิจ ตั้งงบลงทุน 1.15-1.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มสาขาอีก 700 สาขา

เกรียงชัย บุญโพธิ์อภิชาติ

ส่วนนักลงทุนเฉพาะกลุุ่ม หรือนักลงทุนรายได้ใหญ่ และนักลงทุนสถาบัน (PP) เสนอขายหุ้นกู้ชุดที่ 4 อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ย 1.53% ต่อปี หุ้นกู้ชุดที่ 5 อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 1.76% ต่อปี หุ้นกู้ชุดที่ 6 อายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ย 2.14% ต่อปี และหุ้นกู้ชุดที่ 7 อายุ 12 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.20% ต่อปี

สำหรับวัตถุประสงค์การออกหุ้นกู้ทั้ง 7 ชุด เพื่อเสริมความแข็งแกร่งทางการเงิน โดยการนำเงินไปชำระหนี้ หรือ รีไฟแนนซ์ กับสถาบันการเงิน หลังเข้าลงทุน 40% ในบริษัทร่วมทุนที่เข้าซื้อเทสโก้โลตัส และเพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนทางอัตราแลกเปลี่ยน

” เราออกหุ้นกู้ในครั้งนี้จะช่วยให้มีความแข็งแกร่งทางธุรกิจเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งมีความมั่นใจว่าวงเงิน 6.6 หมื่นล้านบาท เพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจต่างๆตามวัตถุประสงค์ของการใช้เงิน และการปรับปรุงสาขาเทสโก้โลตัส รวมถึงการวางระบบภายในต่างๆ ทั้งนี้ขอยืนยันว่ายังไม่ความจำเป็นต้องเพิ่มทุน” นายเกรียงชัย กล่าว

ขณะที่ภาพรวมธุรกิจในไตรมาส 2/2564 บริษัทคาดว่าผลประกอบการจะทรงตัวจากทั้งไตรมาสก่อนหน้าที่มีรายได้รวม 133,431 ล้านบาท และจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่มีรายได้รวม 128,027 ล้านบาท เนื่องจากช่วงไตรมาส 2 มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ ทำให้การบริโภคสินค้าชะลอตัวลงไป

อย่างไรก็ตามในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าผลประกอบการจะเริ่มฟื้นตัวได้ดีขึ้น ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หลังเริ่มเห็นการกระจายวัคซีนวงกว้างมากขึ้น นอกจากนี้บริษัทยังปรับกลยุทธ์ในการทำระบบ เพื่อความสะดวกสบายแก่ลูกค้า ทำโปรโมชั่น และการเพิ่มสินค้าใหม่ๆ เพื่อสร้างผลประกอบการให้มีการเติบโตยิ่งขึ้น

ส่วนเงินลงทุนในปี 2564 ตั้งไว้ที่ประมาณ 11,500-12,000 ล้านบาท โดยใช้ในการเปิดสาขาใหม่ประมาณ 700 สาขา เงินลงทุน 3,800-4,000 ล้านบาท ในไตรมาส 1 เปิดไปแล้วรวม 155 สาขา ใช้เงินลงทุนในการปรับปรุงสาขาเดิมอีก 2,400-2,500 ล้านบาท ใช้ในโครงการใหม่ บริษัทย่อย และศูนย์กระจายสินค้า 4,000-4,100 ล้านบาท และใช้ในสินทรัพย์ถาวรและระบบสารสนเทศอีก 1,300-1,400 ล้านบาท

นายเกรียงชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า แผนการเปิดสาขาที่ประเทศสปป.ลาว และกัมพูชา บริษัทกำลังอยู่ในขั้นตอนการเตรียมความพร้อม เมื่อถึงเวลาที่ประเทศเปิด บริษัทก็จะเริ่มเดินหน้าขยายการลงทุนในต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น