โดย …สุนันท์ ศรีจันทรา
สัปดาห์นี้ หุ้นในตลาด MAI ที่ร้อนแรงสุดเหวี่ยง คงต้องยกให้หุ้นบริษัท ดีเอ็นเอ 2002 จำกัด(มหาชน)หรือ DNA ซึ่งพุ่งแรงมา 4 วันติด ๆ และดึงเอาลูก DNA-W 1 ขยับตามไปด้วย ทั้งที่ไม่มีข่าวดีกระตุ้น
DNA วิ่งควบมาพร้อมหุ้นตัวลูก DNA-W 1 โดยเริ่มขยับอย่างหวือหวา ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา จากราคาปิดวันที่ 2 สิงหาคม ที่ราคา 38 สตางค์ ขยับขึ้นมาปิดที่ 76 สตางค์ เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม โดยเพียง 4 วันทำการของตลาด ราคาขยับขึ้นมา 38 สตางค์ หรือเพิ่มขึ้น 100% พอดี ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด
ส่วน DNA-W 1 ปิดวันที่ 2 สิงหาคม ที่ราคา 1 บาท แต่วันที่ 8 สิงหาคม ทะยานขึ้นมาปิดที่ 2 บาท โดย 4 วันทำการ เพิ่มขึ้น 1 บาท หรือเพิ่มขึ้น 100% พร้อมกับมูลค่าการซื้อขายที่หนาตากว่าปกติ
ไม่มีความเคลื่อนไหวของตลาด MAI ในการขอให้ DNA ชี้แจงถึงราคาหุ้นที่ร้อนแรง ไม่มีการประกาศใช้มาตรการกำกับดูแลหุ้นแต่อย่างใด เหมือนฝ่ายกำกับดูแลของตลาด MAI จะหลับใหล หรือระบบเตือนความผิดปกติของหุ้นเกิดขัดข้อง
ผลประกอบการของ DNA ย่ำแย่มาหลายปีติดต่อ ขาดทุนตลอด จนมียอดขาดทุนสะสม 1,004.38 ล้านบาท จึงไม่มีค่า พี/อี เรโช ให้คำนวณ ไม่จ่ายเงินปันผล เพียงแต่ไตรมาสแรกปีนี้ ผลประกอบมีกำไรสุทธิ 27.58 ล้านบาท จากระยะเดียวกันปีก่อนขาดทุน 0.95 ล้านบาท
ผู้ถือหุ้นรายย่อย DNA มีจำนวนทั้งสิ้น 3,534 ราย ถือหุ้นรวมกันในสัดส่วน 44.24% ของทุนจดทะเบียน โดย นายสามารถ ฉั่วศิริพัฒนา เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ในสัดส่วน 20.31% ของทุนจดทะเบียน ส่วนนายธรรมนัส หรือ ผู้กองธรรมนัส พรหมเผ่า ถือหุ้น 8.05% โดยเข้ามาซื้อหุ้นจากนายปริญญา จารวิจิต เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2561
ราคาหุ้น DNA ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา เคยพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 1.73 บาท ต่ำสุดที่ 34 สตางค์ ส่วนการทะยานขึ้นอย่างร้อนแรงในช่วงนี้ ไม่มีข่าวดีสนับสนุนอย่างชัดเจน แต่นักลงทุนก็แห่เข้าไปเก็งกำไรกันฝุ่นตลบ ทั้งหุ้นตัวแม่และหุ้นตัวลูก หรือ DNA-W 1 ที่กระโจนอย่างน่าหวาดเสียว โดยบางวันพุ่งเกือบ 60%
DNA-W 1 เข้ามาซื้อขายเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2557 โดยบริษัทออกให้ผู้ถือหุ้นเดิมจำนวนทั้งสิ้น 1,255,517,060หุ้น มีอายุ 5 ปี โดยกำหนดสัดส่วนการแปลงสภาพ 1 วอร์แร้นต์ต่อ 5 หุ้นสามัญ ราคาแปลงสภาพ 10 สตางค์
การกำหนดสัดส่วนการแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญในอัตรา 1 ต่อ 5 และตั้งราคาแปลงสภาพเพียง 10 สตางค์ ทำให้ราคาวอร์แร้นต์ DNA วิ่งล้ำหน้าหุ้นตัวแม่
แต่อายุ DNA-W 1 สั้นลงทุกที โดยจะหมดอายุในวันที่ 18 พฤศจิกายนปีนี้ หรืออีกประมาณ 3 เดือนเศษ ซึ่งหากตัดวันที่จะต้องหยุดการซื้อขายล่วงหน้า 15 วัน เพื่อเตรียมการแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญ
เวลาซื้อขาย DNA-W 1 จะเหลือไม่ถึง 3 เดือน นักลงทุนที่เก็งกำไรวอร์แร้นต์ จึงต้องพิจารณาว่า พร้อมจะใส่เงินเพิ่มเติม เพื่อแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญหรือไม่ ถ้าเกิดพลาดติด DNA-W 1
เพียง 4 วันทำการ หุ้นแม่ลูกคู่นี้ DNA และ DNA-W 1 แรงจัดจริง ๆ วิ่งโดยแทบไม่ต้องแตะเบรก จนทะยานขึ้น 100% ทั้งคู่ ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายที่โตขึ้นอย่างผิดหูผิดตา เพียงแต่ผู้บริหารตลาด MAI เท่านั้นที่ไม่เห็นถึงความร้อนแรงของหุ้นตัวนี้
แต่นักลงทุนรายย่อยที่แห่เข้าไปลุย DNA คงจะรู้ว่า กำลังเล่นกับหุ้นร้อน ๆ อยู่