บลจ.กรุงศรีคาดหุ้น 1,840 จุดกลางปีหน้า ชูเอเชียเด่น

“บลจ.กรุงศรี” ชี้หุ้นไทยพื้นฐานแกร่งเศรษฐกิจฟื้น กำไรบจ.โตหนุนดัชนี 1,840 จุดกลางปีหน้า แนะจัดพอร์ตลงทุนต่างประเทศ “จีน-เวียดนาม” เด่น ด้านผุู้จัดการกองทุนนอกมองหุ้นเอเชียร่วง จังหวะลงทุนรับแนวโน้มเติบโต

น.ส.ฉัตรแก้ว เกราะทอง ผู้อำนวยการฝ่ายการลงทุนทางเลือก บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงศรี เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งปีหลังยังมองเชิงบวกจากเศรษฐกิจฟื้นตัวและคาดว่ากำไรบริษัทจดทะเบียนจะเติบโต 8-10% โดยกลุ่มที่น่าสนใจ ได้แก่ กลุ่มแบงก์ กลุ่มพลังงานและกลุ่มพาณิชย์

“ปีนี้ตลาดหุ้นไทยค่อนข้างเหวี่ยงแรง ขึ้นไปแตะจุดสูงสุด 1,838 จุดและต่ำสุดอยู่ที่ 1,595 จุด ซึ่งจากระดับสูงสุดถึงต่ำสุดปรับตัวลดลง 13% ถือเป็นการปรับฐานปกติ ดังนั้นจากดัชนีปัจจุบันถึงระดับสูงสุดเดิมยังมีอัพไซด์ 8% ยังลงทุนได้” น.ส.ฉัตรแก้ว กล่าว

สำหรับเม็ดเงินลงทุนต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) ที่เคยขายหนักๆ เริ่มผ่อนคลายลงเป็นสัญญาณที่ดีและเริ่มมีเงินไหลเข้าเอเชียและไทย จึงคาดว่าสิ้นปีดัชนีน่าจะปิด 1,800 จุดได้ บนพี/อี 16.5 เท่าข้อมูลจากบลูมเบิร์ก แต่ไม่ถึงเป้าหมายเดิมที่บริษัทฯ คาดการณ์ไว้ที่ 1,840 จุด ซึ่งขยับเป้าออกไปเป็นกลางเดือนมิ.ย.2562 อีกทั้งปีหน้ามีการเลือกตั้งน่าจะส่งผลดีต่อตลาด

ส่วนสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนมองว่ากระทบไทยน้อยมาก เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยมีการกระจายสินค้าไปยังประเทศคู่ค้ามากขึ้น โดย 4 อันดับแรก ได้แก่ สหรัฐ ยุโรป ญี่ปุ่นและจีน สัดส่วนใกล้เคียงกัน 9-10% โดย 2-3 ปีที่ผ่านมาการค้าไทยไปยังเอเชียมากขึ้น ส่วนแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐคาดว่าอีก 2 ครั้งในปีนี้ ส่วนไทยหากมีการปรับขึ้นน่าจะ 1 ครั้ง ซึ่งปัจจุบันส่วนต่างดอกเบี้ยของสหรัฐและไทยห่างกันเริ่มมากขึ้น

สำหรับการลงทุนในต่างประเทศมองตลาดหุ้นเอเชียน่าสนใจ โดยแนะนำตลาดหุ้นจีนและเวียดนาม ส่วนตลาดพัฒนาแล้วแนะนำยุโรป โดยนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สำหรับการลงทุนในหุ้นแนะนำจัดพอร์ตลงทุนหุ้นไทย 33% ตลาดหุ้นพัฒนาแล้ว 33% ได้แก่ ยุโรป และตลาดหุ้นเอเชีย ได้แก่ จีนและเวียดนาม หากรับความเสี่ยงได้น้อยกว่านี้แนะนำแบ่งพอร์ตลงทุนหุ้น 50% และอีก 50%

“ตลาดหุ้นจีนยังมีแนวโน้มเติบโตได้มาก ขนาดเศรษฐกิจใหญ่ จึงแนะนำให้มีในพอร์ต เช่นเดียวกับเวียดนามซึ่งค่อนข้างโดดเด่น กำลังเป็นที่สนใจของต่างชาติมีเม็ดเงินไหลเข้าไปลงทุนตรงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่นักลงทุนต้องรับความผันผวนให้ได้ เนื่องจากหุ้นอาจเหวี่ยง แต่ระยะยาวเรามองแนวโน้เศรษฐกิจเติบโต ซึ่งทั้ง 2 ตลาดแนะนำให้ลงทุนยาว 3 ปี”น.ส.ฉัตรแก้ว กล่าว

วันที่ 8 ส.ค.2561 บลจ.กรุงศรีได้จัดสัมมนา”Asia Investment Forum” : The World’s Growth Engine” เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองเศรษฐกิจและโอกาสลงทุนในเอเชีย โดยมีผู้จัดการกองทุนชั้นนำของเอเชีย 6 รายเข้าร่วม ซึ่งยังคงมองแนวโน้มตลาดหุ้นเอเชียยังดีจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่เติบโต ซึ่งการปรับตัวลดลงแรงของตลาดหุ้นเอเชียจึงเป็นโอกาสในการเข้าลงทุน โดยปีที่ผ่านมาหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นมากการปรับตัวลดลงในครั้งนี้จึงมองเป็นเรื่องปกติ จากปัจจัยลบประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมถึงการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)