HoonSmart.com>>WHA Group แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ขายหุ้น WHA ที่ถือหุ้นโดย คุณจรีพร จารุกรสกุล และนายแพทย์สมยศ อนันตประยูร ให้แก่ จรีพร จารุกรสกุล-บุตรสาว-เครือญาติ ซึ่งไม่กระทบอำนาจการบริหาร ธุรกิจทั้ง 4 ยังสามารถเติบโต ส่งสัญญาณบวก ครึ่งหลังฟื้นตัว
นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัทดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) เปิดเผยถึงรายงานการขายหุ้นของผู้ถือหุ้นใหญ่ตามรายงานที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า เป็นธุรกรรมการขายหุ้น WHA ของ บริษัท ดับบลิวเอชเอ โฮลดิ้ง จำกัด (WHA HOLDING) ซึ่งถือหุ้นโดยคุณจรีพร จารุกรสกุล และนายแพทย์สมยศ อนันตประยูร ให้แก่ “คุณจรีพร จารุกรสกุล บุตรสาว และเครือญาติ” โดยไม่ได้มีการขายหุ้นให้กับกลุ่มบุคคลอื่น ทั้งนี้ อำนาจในการควบคุมบริษัทฯ โครงสร้างของคณะกรรมการบริษัทฯ และผู้บริหารยังเป็นไปตามเดิม จึงไม่กระทบต่อการบริหารและแผนการดำเนินธุรกิจ
สำหรับธุรกรรมการขายหุ้น WHA ของ WHA HOLDING ครั้งนี้ คิดเป็นจำนวนทั้งสิ้น 493,500,000 หุ้น แบ่งเป็นการขายให้แก่ “นางสาวจรีพร จารุกรสกุล” จำนวน 246,750,000 หุ้น “นางสาวชัชชมนต์ อนันตประยูร” บุตรสาว จำนวน 110,510,000 หุ้น “นายชัยวัฒน์ พู่พิสุทธิ์” (หลานชาย) จำนวน 68,120,000 หุ้น และ “นางสาวสุพิชญา พู่พิสุทธิ์” (หลานสาว) จำนวน 68,120,000 หุ้น ตามลำดับ
“การทำรายการซื้อขายหุ้นดังกล่าว ไม่ผลกระทบต่ออำนาจในการควบคุมบริษัท โดยนโยบายการดำเนินธุรกิจ และโครงสร้างของคณะกรรมการบริษัทและผู้บริหารยังเหมือนเดิม นอกจากนี้ การทำรายการซื้อขายหุ้นดังกล่าวไม่ทำให้การถือหุ้นข้ามจุดที่ต้องคำเสนอซื้อตามพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และไม่จัดเป็นรายการเกี่ยวโยง เนื่องจากเป็นรายการระหว่างผู้ถือหุ้นด้วยกันเอง ไม่เกี่ยวข้องกับบริษัท โดยครอบครัวของคุณจรีพรยังถือหุ้นรวมกันกว่าร้อยละ 45.5”
ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาสที่ผ่านมา ทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจของบริษัทฯ มีการเติบโตที่ดีท่ามกลางสถานการณ์โควิดระลอกใหม่ ธุรกิจโลจิสติกส์ สามารถเซ็นต์สัญญาเช่าระยะสั้นที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า 25,949 ตารางเมตร จากเป้ารวมทั้งปี 50,000 ตารางเมตร รวมถึงปัจจุบันมีลูกค้าแสดงความสนใจเช่าพื้นที่คลังสินค้า Built-to-Suit และ Warehouse Farm แล้วมากกว่า 200,000 ตารางเมตร นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังมีแผนการพัฒนาโครงการศูนย์กระจายสินค้าบน Strategic Location เพิ่มอีก 5 โครงการ โดยมีพื้นที่รวมกว่า 400,000 ตารางเมตร
สำหรับ ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม ไตรมาสที่ผ่านมาบริษัทฯ มียอดขายที่ดินในไทยและเวียดนามรวม 213 ไร่ ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการผลิตและการลงทุนจากต่างประเทศจะชัดเจนในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 บริษัทฯ จึงคงเป้ายอดขายที่ดินในประเทศไทยและเวียดนามปีนี้ที่ 1,030 ไร่
ส่วนธุรกิจสาธารณูปโภค ปริมาณการจำหน่ายและบริหารน้ำ ทั้งในและต่างประเทศปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกอบการปิโตรเคมี โรงไฟฟ้าและยานยนต์ ซึ่งเป็นลูกค้าหลักของบริษัทฯ นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังได้พัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์น้ำมูลค่าเพิ่ม (Value added product) โดยเป็นการนำนวัตกรรมมาใช้เพื่อสร้างความยั่งยืน และลดการพึ่งพิงน้ำดิบจากแหล่งน้ำอื่นอีกด้วย
ธุรกิจไฟฟ้า บริษัทฯ สามารถเซ็นต์สัญญาและเริ่มเปิดดำเนินงานเชิงพาณิชย์ (COD) เพื่อผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ให้กับลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง คาดว่าปีนี้จะเซ็นสัญญาเพื่อลงทุนผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ได้เพิ่มเติมอีกไม่น้อยกว่า 40 เมกะวัตต์ บริษัทฯ คงเป้าจำนวนการเซ็นสัญญาที่ 90 เมกะวัตต์ ณ สิ้นปี 2564 และเพิ่มเป็น 300 เมกะวัตต์ภายในปี 2566 ในขณะที่โรงไฟฟ้าอื่นๆ อาทิ กลุ่มโรงไฟฟ้า IPP กลุ่มโรงไฟฟ้า SPP ทั้ง 8 โรง และโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม ชลบุรี คลีน เอ็นเนอร์ยี่ (CCE) ยังมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง
ธุรกิจดิจิทัลแพลตฟอร์ม บริษัทฯ อยู่ระหว่างการจัดทำแผนการลงทุน 5G Tower ร่วมกับผู้ให้บริการโทรคมนาคมชั้นนำเพื่อติดตั้งและทดสอบการใช้งานจริงของโซลูชัน 5G ภายในเขตนิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอ ควบคู่ไปกับการขยายการให้บริการเชื่อมต่อสื่อสารแบบโครงข่ายสายเคเบิลใยแก้วนำแสง (FTTx) ภายในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมทั้งหมด