HoonSmart.com>> “ไทยออยล์” คาดค่าการกลั่นครึ่งปีหลังฟื้นตัวต่อเนื่อง จากไตรมาส 1 อยู่ที่ 0.7 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ตามความต้องการน้ำมันที่เพิ่มขึ้น มองกรอบราคาน้ำมันดิบปีนี้ที่65 เหรียญสหรัฐ ส่วนโครงการ CFP คืบหน้าไปแล้ว 67% มูลค่าการลงทุน 1.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ จากเงินลงทุนรวมทั้งหมด 2.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ที่จะใช้ตั้งแต่ปี 64-67 มองหาการลงทุนในธุรกิจโอเลฟินส์ เน้นรุกขยายตลาดเติบโตสูง-ต่อยอดสินค้าที่ทำกำไรดี
น.ส.ทอแสง ไชยประวัติ ผู้จัดการฝ่ายวางแผนการเงิน บริษัท ไทยออยล์ (TOP) เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจมีแนวโน้มจะฟื้นตัวได้ดีขึ้น เพราะว่าเศรษฐกิจทั่วโลกฟื้นตัว หลังจากมีการกระจายวัคซีนที่ทั่วถึงมากขึ้น คาดว่าค่าการกลั่น (GRM) ในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 จะฟื้นตัวขึ้ต่อเนื่อง จากปัจจุบันค่าการกลั่น Singapore Cracking GRM อยู่ที่ 2.7 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และไตรมาส 1 อยู่ที่ 1.8 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนในไตรมาส 1 ค่าการกลั่นของบริษัทอยู่ที่ 0.7 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
“การฟื้นตัวของค่าการกลั่น เรามองว่าจะมาจากความต้องการน้ำมันเบนซิน ที่ช่วงกลางปีจะกลับไปแตะระดับก่อนเกิดโควิด-19 ได้ ส่วนน้ำมันอากาศยาน มีแนวโน้มการฟื้นตัวที่ดีขึ้น จากจำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น รวมถึงน้ำมันดีเซลและน้ำมันเตา ที่จะฟื้นตัวตามทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจด้วย” น.ส.ทอแสง กล่าว
ในประเทศที่พัฒนาแล้วมีอัตราการฉัดวัคซีนที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ผู้ติดเชื้อลดลง และมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันดีขึ้น ประกอบกับกำลังการผลิตทั่วโลกยังถูกควบคุมปริมาณการผลิตจาก OPEC อยู่ ซึ่งบริษัทฯคาดว่า จะทำให้ราคาน้ำมันดิบในปี 2564 อยู่ที่บริเวณ 65 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลบวกลบ
ส่วนแผนการลงทุนโครงการในอนาคตตั้งแต่ปี 2564-2567 ตั้งเงินลงทุนประมาณ 2,248 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยส่วนใหญ่เป็นโครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project -CFP) มูลค่าการลงทุนประมาณ 1,902 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ปัจจุบันก่อสร้างไปประมาณ 67%
นอกจากนี้บริษัทฯมีแผนจะเข้าลงทุนในธุรกิจโอเลฟินส์ ผ่านบริษัทที่ทำธุรกิจดังกล่าวแล้ว เน้นการตลาดในประเทศที่มีการเติบโต หรือ มีโอกาสเติบโตที่สูง ซึ่งจะเป็นการต่อยอดผลิตภัณฑ์ที่มีความสามารถทำกำไรที่ดีขึ้น