SCBAM : “อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นสูงกว่าคาด”

๐ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง จากสถานการณ์เงินเฟ้อของสหรัฐฯ เดือน เม.ย. ที่เพิ่มมากกว่าตลาดคาดอย่างมาก อาจเป็นปัจจัยหนุนการเพิ่มขึ้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นปัจจัยสร้างความกังวลให้กับตลาดที่อาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับการดำเนินนโยบายทางการเงินเร็วขึ้น อีกทั้งงบประมาณส่วนหนึ่งที่ใช้กระตุ้นแผนเศรษฐกิจ “American families Plan” เป็นวงเงินจากการปรับขึ้นอัตราภาษีบุคคลธรรมดาขั้นสูงสุด สำหรับผู้ที่มีรายได้ 4 แสนดอลลาร์ต่อปี ขึ้นเป็น 39.6% จากเดิม 37% และปรับขึ้นอัตราภาษีกำไรจากการลงทุน (Capital Gains Tax) กับผู้มีรายได้ 1 ล้านดอลลาร์ต่อปี ขึ้นเป็น 39.6% จากเดิม 20% นอกจากนี้อาจมีแผนการปรับขึ้นภาษีอื่นเพิ่มเติม ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นในระยะนี้

๐ การฉีดวัคซีนของทั่วโลกเริ่มมีความคืบหน้า โดยล่าสุดประเทศพัฒนาแล้วฝั่งตะวันตก เช่น สหรัฐฯ และยุโรปมีการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็มให้กับประชาชนถึง 46.04% และ 29.59% ของจำนวนประชากรทั้งหมดตามลำดับ ขณะที่ประเทศภูมิภาคเอเชียไม่ว่าจะเป็นเกาหลีใต้ อินเดีย ญี่ปุ่น และไทยฉีดไปแล้ว 7.24%, 9.99%, 3.04% และ 2.00% ตามลำดับ

๐ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของสหรัฐฯ เดือน เม.ย. เพิ่มขึ้นและสูงสุดในรอบหลายปี
โดยเงินเฟ้อทั่วไปเร่งตัวขึ้นจาก 2.6%เป็น 4.2% YoY ซึ่งมากกว่าที่ตลาดคาดอย่างมาก เป็นผลมาจากฐานต่ำในช่วงเดียวกันปีก่อนที่เกิดการระบาดรุนแรงของ COVID-19 และการผ่อนคลาย Lockdown ที่หนุนราคาสินค้าในกลุ่มท่องเที่ยวปรับตัวเพิ่มขึ้น อีกทั้งการขาดแคลนสินค้าที่ทำให้ผู้ผลิตไม่สามารถส่งสินค้าให้ทันกับความต้องการของผู้บริโภคที่เร่งตัวขึ้นและทำให้ราคาขายสินค้าถูกปรับขึ้นโดยผู้ประกอบการบางราย

๐ คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ปี 2564 โดยคณะกรรมาธิการยุโรป ปรับประมาณการณ์จากเดิมที่คาด 3.8% ในเดือน ก.พ. ขึ้นเป็น 4.3% เนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นจากการแจกจ่ายวัคซีนที่รวดเร็วและยังมีปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐประกอบกับอุปสงค์โลกที่มีแนวโน้มแข็งแกร่งขึ้น

๐ ตลาดแรงงานสหรัฐฯ กลับมาฟื้นตัวดีขึ้น จากจำนวนผู้ว่างงานขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯ ครั้งแรก ณ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 8 พ.ค. ลดลงถึง 34,000 ราย เป็น 473,000 แสนราย นับเป็นตัวเลขต่ำสุดนับตั้งแต่เกิดการระบาดของ COVID-19 เป็นผลมาจากการผ่อนคลาย Lockdown ภายในประเทศทำให้ธุรกิจต่างๆ กลับมาเปิดทำการได้ปกติ

๐ FED ยังคงนโยบายการเงินตามเดิมไประยะหนึ่ง โดนนายริชาร์ด แคลริดา รองประธาน FED ยืนยันว่าตัวเลขการจ้างงานสหรัฐที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดและอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นในเดือน เม.ย.จะไม่ส่งผลให้ FED เปลี่ยนแปลงแนวทางการสนับสนุนเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

ตลาดตราสารทุน
ตลาดหุ้นไทย : แนะนำ “คงน้ำหนักการลงทุน”
ตลาดหุ้นเกาหลี : แนะนำ “คงน้ำหนักการลงทุน”
ตลาดหุ้นจีน : ปรับคำแนะนำจาก “เพิ่มน้ำหนักการลงทุนหุ้น” เป็น "คงน้ำหนักการลงทุนหุ้นจีน H-Shares" และ คงน้ำหนักการลงทุนในหุ้นจีน A-Shares
ตลาดหุ้นยุโรป : แนะนำ “คงน้ำหนักการลงทุน”
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ : ปรับคำแนะนำจาก “เพิ่มน้ำหนักการลงทุน” เป็น "คงน้ำหนักการลงทุน"
ตลาดหุ้นญี่ปุ่น : แนะนำ “คงน้ำหนักการลงทุน”

ตลาดตราสารหนี้
ตราสารหนี้ไทย : แนะนำ “คงการลงทุน”
ตราสารหนี้ต่างประเทศ : ปรับคำแนะนำจาก “เพิ่มน้ำหนักการลงทุน” เป็น "คงน้ำหนักการลงทุนใน SCBFIN และ SCBUSHY"

สินทรัพย์ทางเลือก
ทองคำ : แนะนำ “คงน้ำหนักการลงทุน”
น้ำมัน : ปรับคำแนะนำจาก “เพิ่มน้ำหนักการลงทุน” เป็น “คงน้ำหนักการลงทุน”
อสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐาน: ปรับคำแนะนำจาก “เพิ่มน้ำหนักการลงทุนใน SCBPIN”เป็น "คงน้ำหนักการลงทุน"