UPA โชว์กำไรพุ่ง 162.50% ปี64 เทิร์นอะราวด์

HoonSmart.com>>”ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย”ส่งสัญญาณ “เทิร์นอะราวด์”  ไตรมาส 1/64 กำไร 7.98  ล้านบาท อานิสงส์บุ๊ครายได้โซลาร์ฟาร์ม 46.7 เมกะวัตต์ ในประเทศเวียดนาม  บอร์ดอนุมัติบริษัทย่อย ลงทุนในบริษัทโกลเด้น ไทรแองเกิ้ล กรุ๊ป ลุยธุรกิจกัญชาเพื่อการแพทย์ สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น

นายวิชญ์ สุวรรณศรี รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย (UPA) เปิดเผยว่า ในไตรมาส 1/2564 บริษัทมีกำไรสุทธิ 7.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.94 ล้านบาท หรือ 162.50 % เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนรายได้รวม 50.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 14.87 ล้านบาท ถือเป็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน

สาเหตุที่ทำให้ผลงานเพิ่มขึ้นจากการขยายพอร์ตลงทุนโรงไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์ม Song Luy 1 Solar Power ขนาดกำลังผลิต 46.78 เมกะวัตต์ ในประเทศเวียดนาม ที่ขายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ที่เริ่มรับรู้รายได้เข้ามาตั้งแต่ปลายปี 2563 และจะเริ่มรับรู้รายได้เต็มปีในปี 2564 ขณะเดียวกัน ยังมีรายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีอยู่เดิม และโครงการอื่นๆ สนับสนุน ได้แก่ โซลาร์สหกรณ์ในประเทศ 7.95 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าขนาดกำลังการผลิต 5 เมกะวัตต์ ที่จังหวัดอุดรธานี และโครงการผลิตน้ำประปาในสปป.ลาว สนับสนุน

กลุ่มบริษัทฯ ได้วางกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจอย่างเข้มข้นในทุกธุรกิจ เพื่อเพิ่มแหล่งที่มาของรายได้ สนับสนันธุรกิจเติบโตแข็งแกร่งและยั่งยืน ซึ่งในไตรมาส 1  กำไรเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากมีรายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าในประเทศเวียดนาม และยังมีธุรกิจสาธารณูปโภค และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงแผนการขยายธุรกิจใหม่ผลิตและจำหน่ายกัญชา เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์  จะทำให้รายได้และกำไรเติบโตอย่างก้าวกระโดด และสร้างผลตอบแทนทีดีให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต

นายกวิน เฉลิมโรจน์ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย กล่าวว่า คณะกรรมการบริษัทฯมีการประชุมวันที่  13 พ.ค.64 มีมติอนุมัติให้บริษัทย่อย คือ แคนนา แคร์ ลงทุนใน บริษัท โกลเด้น ไทรแองเกิ้ล กรุ๊ป GTG ซึ่งประกอบธุรกิจหลักเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากกัญชา (cannabis) เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ด้วยความร่วมมือกับสถาบันอุดมศึกษา

ทั้งนี้ได้เข้าซื้อหุ้นเดิม GTG จำนวน 167,293 หุ้น จากบริษัท ไทย-ออสเตรเลี่ยน รีซอสเซส  และซื้อหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 184,900 หุ้น รวมเป็นจำนวน 352,193 หุ้น ในราคารวมทั้งสิ้น 77,143,360 บาท และภายหลังจากการทำรายการข้างต้นเสร็จสมบูรณ์บริษัทย่อยจะถือหุ้นทั้งหมดใน GTG คิดเป็นสัดส่วน 4.33% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมด