หุ้นปิดลบ 23 จุด ตามภูมิภาค ต่างชาติขาย 2.4 พันลบ.

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นปิดลบ 23.72 จุด ระหว่างวันร่วงหนัก 70 จุด ทดสอบ 1,500 จุด ก่อนดีดกลับ ปัจจัยทั้งในประเทศและนอกประเทศกดดัน นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2.4 พันล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 4.5 พันล้านบาท แนวโน้มตลาดหุ้นวันพรุ่งนี้ แกว่งตัว Sideways-to-Sideways Up เคลื่อนไหวในกรอบ 1,540-1,565 จุด แนะนำหุ้นเด่น IRPC-CHAYO-WICE

ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 13 พ.ค. 2564 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,548.13 จุด -23.72 จุด หรือ -1.51% มูลค่าการซื้อขาย 143,714.02 ล้านบาท

นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 2,458.07 ล้านบาท รองลงมานักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 1,797.75 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ขายสุทธิ 286.29 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 4,542.11 ล้านบาท

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวอย่างมาก โดยมีจุดสูงสุดที่ 1,561.80 จุด และลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 1,501.02 จุด โดยดัชนีปิดลบ 23.72 สอดคล้องกับตลาดภูมิภาค ซึ่งปัจจัยภายนอกมากจาก ตัวเลขเงินเฟ้อที่ปรับตัวขึ้น ทำให้นักลลงทุนกังวลเรื่องการใช้เครื่อมือทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ ให้เกิดแรง Panic Sell ทั่วโลก ส่วนปัจจัยภายในประเทศมาจากจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่้มขึ้น อยู่ระดับ 4,000 ราย และจำนวนผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

“แต่วันนี้ถือว่าตลาดหุ้นดีดกลับขึ้นมาได้ดีมาก พอลงไปแตะแนวรับที่ 1,500 จุด รีบาวด์กลับขึ้นมาได้ดี ซึ่งพยายามจะปิดยืนบริเวณ 1,550 จุดด้วย มองว่ารอบนี้หุ้นปรับฐานไปเสร็จแล้ว ภาพดัชนีที่ดึงกลับ เกิดจากคนขายเพราะกลัว และมีคนกล้าที่จะซื้อขึ้นมา ทำให้ตลาดหุ้นตอนนี้เปลี่ยนมือไปแล้ว” นายวิจิตร กล่าว

ส่วนแนวโน้มของตลาดหุ้นในวันสุดท้ายของสัปดาห์นี้ (14 พ.ค. 2564) คาดว่าดัชนีจะเคลื่อนไหวแกว่งตัว Sideways-to-Sideways Up ประเมินกรอบเคลื่อนไหวไว้ที่ 1,540-1,565 จุด โดยแนะนำหุ้นเด่น ได้แก่ IRPC , CHAYO และ WICE โดยสัปดาห์หน้าติดตามปัจจัยการรายงานงบการเงินของบริษัทจดทะเบียน และการรายงานตัวเลข GDP ของไตรมาส 1/2564

5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่

CPALL ปิดที่ 58.00 บาท -2.75 หรือ -4.53% มูลค่าการซื้อขาย 6,435.90 ล้านบาท
TIDLOR ปิดที่ 41.00 บาท +0.75 หรือ +1.86% มูลค่าการซื้อขาย 5,998.81 ล้านบาท
STA ปิดที่ 46.50 บาท -2.25 หรือ –4.62% มูลค่าการซื้อขาย 4,382.07 ล้านบาท
KBANK ปิดที่ 122.50 บาท +3.00 หรือ -+2.51% มูลค่าการซื้อขาย 4,250.56 ล้านบาท
STGT ปิดที่ 45.50 บาท +0.25 หรือ -+0.55% มูลค่าการซื้อขาย 3,506.37 ล้านบาท