นักลงทุนแห่จองหุ้นกู้ ”บีบีจีไอ” ผ่าน “กรุงไทย”

HoonSmart.com>>“บีบีจีไอ”ประสบความสำเร็จในการออกหุ้นกู้ครั้งแรกมูลค่า 1,300 ล้านบาท เปิดจองซื้อผ่าน“ธนาคารกรุงไทย” แห่งเดียว นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ตอบรับล้นหลาม สนใจจองซื้อเกือบ“5 เท่า” สะท้อนความเชื่อมั่นอนาคตธุรกิจ

นายกิตติพงศ์ ลิ่มสุวรรณโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าบริษัทประสบความสำเร็จในการออกหุ้นเป็นครั้งแรก จำนวน 1,300 ล้านบาท ซึ่งมีผู้ลงทุนให้ความสนใจลงทุนเกือบ5เท่าของมูลค่าที่เสนอขาย

โดยหุ้นกู้ที่ออกในครั้งนี้มีจำนวน 2 ชุด ประกอบด้วย หุ้นกู้อายุ 1 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ย 2.53%ต่อปี มูลค่า 500 ล้านบาท และหุ้นกู้อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.30%ต่อปี มูลค่า 800 ล้านบาท บริษัทฯได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับ “BBB+”จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2563 โดยหุ้นกู้ได้เสนอขายต่อผู้ลงทุนสถาบัน และผู้ลงทุนรายใหญ่ระหว่างวันที่ 7 และ 10 พฤษภาคม 2564 และออกหุ้นกู้ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2564 มีธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน)เป็นผู้จัดการการจำหน่ายหุ้นกู้ในครั้งนี้ โดยบริษัทฯจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ไปชำระคืนหนี้ ลงทุนในธุรกิจใหม่และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ

ความสำเร็จในออกหุ้นกู้ครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจของผู้ลงทุนต่อธุรกิจของบริษัท ในฐานะเป็นผู้นำในการเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิงชีวภาพ (Biofuel) ของประเทศไทย ซึ่งมีบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) และบริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด(มหาชน) เป็นผู้ถือหุ้นหลักและความเชื่อมั่นต่อผลดำเนินงานที่แข็งแกร่ง

โดยผลประกอบการ ณ สิ้นปี 2563 มีรายได้รวม 12,620 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 845 ล้านบาท มีสินทรัพย์รวม 12,731 ล้านบาท และหนี้สินรวม 6,227 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้นรวม 6,504 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทฯมีแผนระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)โดยคาดว่าจะยื่นไฟลิ่งเพื่อขอเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก(IPO)ในช่วงครึ่งหลังของปี 2564

นายรวินทร์ บุญญานุสาสน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ เปิดเผยว่า การออกและเสนอขายหุ้นกู้ของ บีบีจีไอ ในครั้งนี้มีนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่สนใจจองซื้อจำนวนมากเกือบ 5 เท่าของมูลค่าที่เสนอขาย สะท้อนถึงมุมมองผู้ลงทุนที่เล็งเห็นศักยภาพของบริษัทฯ ที่เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไบโอดีเซลและเอทานอลรายใหญ่ของประเทศและมีแผนขยายการลงทุนไปยังธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับแผนการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน