ตลาดเดือน พ.ค.ลุ้นทะลุ 1600 จุด แจกกลยุทธ์-หุ้นเด่น

HoonSmart.com>>สถิติหุ้นเดือนพ.ค.ของทุกปีมักจะลงมากกว่าขึ้น สหรัฐสอบผ่านวันแรก พุ่งแรง 230 จุด ส่วนไทย นักวิเคราะห์เสียงแตก เมย์แบงก์-เอเซียมองบวก มีโอกาสทะลุ 1,600 จุด บล.หยวนต้า เตือนหุ้นอาจจะลง เจอแรงกดดันตลาดหุ้นประเทศ คัดหุ้นเด่น-กำไรดี PTTGC-IRPC-AP-JWD-III-NER-STI-MGT บล.ฟินันเซีย มองตลาดย่อตัว แนะเป็นโอกาสซื้อหุ้นเด่น BCH-TU-CPALL-STEC-ITEL

ตลาดหุ้นสหรัฐประเดิมซื้อขายวันแรกของเดือนพ.ค. ปรากฎว่าดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งกว่า 230 จุด รับผลการดำเนินงานของบจ.และเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งไม่เหมือนสถิติที่ผ่านมาที่จะปรับตัวลงมากกว่า นักลงทุนสหรัฐมักมีคำกล่าวกันว่า “Sell in May and Go Away” หรือ “ขายหุ้นในเดือนพ.ค. ก่อนออกจากตลาด “ในช่วงเดือนพ.ค.-ต.ค.

ในส่วนของตลาดหุ้นไทย นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า เหตุการณ์ที่นักลงทุนขายหุ้นทำกำไรในช่วงเดือนพ.ค. (Sell in May) จากสถิติในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (ปี 2554-2563) ดัชนีในเดือนพ.ค. มีค่าเฉลี่ยลดลง 1.5% (ความน่าจะเป็น 7 ปี ใน 10 ปีที่เกิดเหตุการณ์ Sell in May) ในปี 2564 คาดว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์นี้ เพราะมีปัจจัยบวกมากกว่าปัจจัยลบ  เช่น กำไรบริษัทจดทะเบียนที่ทยอยรายงานออกมาดีกว่าที่คาดมาก ถึงแม้จะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทั้งรอบ 2 และ 3 ก็ตาม นอกจากนี้ยังปัจจัยต่างประเทศที่เป็นบวก ทั้งตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ การกระจายวัคซีนทั่วโลกมากขึ้น และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ ที่คาดว่าจะมีทยอยออกมาบ้าง

“เราเชื่อว่าด้วยปัจจัยบวกมากมาย จะพาดัชนีทะลุ 1,600 จุด และไตรมาส 2  ปัจจัยกดดันยังมีน้อย แต่ช่วงครึ่งปีหลัง มีเรื่องมาตรการเงินที่อาจจะกดดันต่อตลาด เราให้เป้าหมายดัชนีสิ้นปี 2564  ไว้ที่ 1,600 จุด กำไรต่อหุ้นที่ 82 บาทต่อหุ้น ” นายวิจิตรกล่าว

กลยุทธ์การลงทุน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ประเมินแนวต้านในไตรมาส 2 กรอบบนที่ 1,650 จุด แนะนำหุ้นที่คาดว่าจะถูกคำนวณเข้าดัชนี SET50 และSET100 คือ IRPC และ SINGER ตามลำดับ ซึ่งผลประกอบการดีทั้งคู่ ส่วนหุ้นที่คาดว่าแนวโน้มกำไรยังดีต่อเนื่อง แนะนำ JMART และ NER นอกจากนี้แนะนำ HANA จากการที่เติบโตตามเศรษฐกิจโลก

ด้านฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า หุ้นในเดือนพ.ค.คาดแรงขายจากนักลงทุนต่างประเทศมีโอกาสลดน้อยลง  และน่าจะกลับเข้ามาพยุงดัชนีหุ้น ด้วยสภาพคล่องส่วนเกินที่ล้นระบบ และยังเห็นแนวโน้มการมองหาสินทรัพย์ในตลาดหุ้นที่มีผลตอบแทนที่ดี และค่าเงินดอลลาร์มีแนวโน้มอ่อนค่าลง รวมถึงการขึ้นภาษีของสหรัฐ ที่จะช่วยให้เม็ดเงินไหลเข้าตลาดหุ้นเอเชียและไทยมากขึ้น

นอกจากนี้กำไรบจ.ทยอยรายงานออกมาค่อนข้างดีมาก ช่วยลดแรงกดดัน Sell in May โดยนักวิเคราะห์ ASPS ตัดสินใจอาจจะปรับเพิ่มประมาณการกำไรบจ.จากเดิมที่คาดไว้กำไรต่อหุ้นที่ 72 บาทหุ้น และกำไรบริษัทจดทะเบียนที่ 8.2 แสนล้านบาท เชื่อว่าปีนี้จะเติบโตเกิน 32% ตามสถิติในอดีตบ่งชี้ว่า ปีไหนที่กำไรบจ. โตเกิน 30% จะทำให้ดัชนีหุ้นปีนั้นปรับตัวขึ้นเกินกว่า 20% ขณะที่ต้นปี 2564 ถึงปัจจุบันดัชนีปรับขึ้นเพียง 7.6% คาดว่าดัชนีปีนี้จะเกินเป้าหมายที่วางไว้ที่ 1,670 จุด

สำหรับกลยุทธ์เดือน พ.ค. 2564 แนะนำ 7 หุ้นมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าตลาด คือ SCC ,PTTGC ,MTC ,ASK และ MCS ส่วนหุ้นที่คาดว่ากำไรจะฟื้นได้โดดเด่นในปีนี้ และไตรมาส 1  ได้แก่ ADVANC และ AS

ด้านนายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า หุ้นไทยในเดือน พ.ค.อาจจะมีความเสี่ยงที่จะเกิด Sell in May เนื่องจากปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างสูง ใกล้บริเวณแนวต้านสำคัญที่ 1,600 จุด เนื่องจากแรงกดดันจากตลาดหุ้นต่างประเทศที่โดน Sell in May ซึ่งจะเห็นได้ว่าตลาดหุ้นสหรัฐ มีแรงขาย Sell on Fact ในหลายๆหุ้นแล้ว

“หุ้นต่างประเทศ อย่างสหรัฐค่อนข้างตึงตัว และอาจจะเจอ Sell in May แต่ทั้งนี้ตามสถิติ 10 ย้อนหลังของดัชนีหุ้นไทย ถ้าถูกขาย ก็ปรับลงเพียง 20 กว่าจุด ถือว่ายังไม่มาก มองการปรับลดเป็นการพักฐานที่ดี เนื่องจาก 1,600 จุด เป็นแนวต้านที่สำคัญ  ตลาดค่อนข้างตึงตัว และโอกาสผ่านได้ยาก ถึงแม้ว่ามีปัจจับบวกก็ตาม”

ส่วนกลยุทธ์การลงทุนในเดือน พ.ค.  บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกโดดเด่น ผลประกอบการแนวโน้มเติบโตดี แนะนำ PTTGC ,IRPC ,AP ,JWD ,III ,NER ,STI และMGT

ด้านนายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า Sell in May ในปี 2564 คาดว่ามีโอกาสเกิดขึ้นได้ ด้วยสถิติ 10 ย้อนหลัง เกิดขึ้น 7 ปี ใน 10 ปี และมูลค่าราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน ค่อนข้างสูง รวมถึงกระแสเงินทุนคาดว่าจะไหลออกจากตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets ) กลับไปสู่ตลาดสหรัฐ หลังจากการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจออกมาค่อนข้างดี ถ้าดัชนีอ่อนตัวลง แนะนำเป็นโอกาสซื้อ โดยหุ้นเด่น เดือนพ.ค. ได้แก่  BCH ,TU ,CPALL ,STEC และITEL