กสิกร-ซีจีเอสฯแนะนำซื้อ AMATA เป้า 23-29 บาท

หุ้นอมตะฯได้รับสนใจมาก แม้บล.กสิกรไทยลดราคาเป้าหมายจาก 25.25 บาทเหลือ 23.50 บาท หลังยอดขายครึ่งปีแรกค่อนข้างต่ำ ลุ้นครึ่งปีหลังจะดีขึ้น ไตรมาส 2 กำไรสุทธิ 288 ล้านบาท โต 12.6% บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบีหวังว่าครึ่งปีหวังผลงานฟื้นครึ่งปีหลังเช่นเดียวกัน

บล.กสิกรไทย คงคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้นบริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น(AMATA) แม้ลดราคาเป้าหมาย 23.50 บาท จาก 25.25 บาท เพื่อสะท้อนยอดขายที่ดินในช่วงครึ่งปีแรกที่ยังค่อนข้างต่ำ ประมาณ 80 ไร่หรือ 9% จากเป้าหมายทั้งปีที่ 925 ไร่

อย่างไรก็ตามจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและของไทย ซึ่งส่งผลบวกต่อการใช้กำลังการผลิตภาคอุตสาหกรรม รวมถึงความพยายามในการสร้างความต้องการลงทุนในไทยของรัฐบาลผ่านโครงการอีอีซี คาดว่าผู้ประกอบการนิคมอุตสาหกรรมยังมีแนวโน้มการดำเนินงานที่ดี

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2/2561 ประเมินกำไรที่ 288 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.6% จากระยะเดียวกันปีก่อน หลักๆจากส่วนแบ่งกำไรในธุรกิจโรงไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น แต่ลดลง 30.3% จากไตรมาสก่อนหน้า จากรายได้จากการขายที่ดิน อัตรากำไรขั้นต้นและส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจโรงไฟฟ้าที่ลดลง ประเมินว่ายอดขายที่ดินที่จะเพิ่มขึ้นในครึ่งปีหลัง รวมถึงความคืบหน้าของกฏหมายลูกพรบ.อีอีซีและการประมูลโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับอีอีซีจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันราคาหุ้นในระยะถัดไป
1
ทางด้านบล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี คงคำแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมาย 29.50 บาท คาด AMATA จะรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/256 อยู่ที่ 274.1 ล้านบาท ลดลง 33.7% จากไตรมาส 1 แต่เพิ่มขึ้นเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน รวมกำไรสุทธิครึ่งปี คิดเป็น 37.7% ของประมาณการทั้งปีของเรา ซึ่งมองว่าเป็นไปตามคาดที่จะบรรลุเป้าหมายทั้งปีได้ เนื่องจากเราคาดผลประกอบการจะดีขึ้นในครึ่งปีหลัง แม้ว่ายอดพรีเซลพรีเซล ที่ดินจะอ่อนตัวลง 80 ไร่ครึ่งปีแรก บริษัทยังคงตั้งเป้ายอดพรีเซลที่ดินอยู่ที่ 925 ไร่ คือประมาณ 800 ไร่ในประเทศ และ 125 ไร่ในเวียดนาม

บริษัทคาดจะได้รับการอนุมัติสำหรับโครงการใหม่ของ Amata City Bien Hoa ภายในวันที่ 18 ส.ค.และยอดพรีเซลที่ดินจะเริ่มในไตรมาสที่ 4/2561

บริษัท ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตบริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น ที่ระดับ “A” สะท้อนถึงความเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม ขณะเดียวกันยังจัดอันดับเครดิตให้แก่ หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกัน ในวงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาทที่ระดับ “A”ด้วยเช่นกัน บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ไปใช้ชำระคืนหนี้เงินกู้และลงทุนตามแผนงานที่วางไว้

อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตก็ถูกลดทอนบางส่วนจากลักษณะที่ผันผวนของธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม รวมถึงความเสี่ยงของประเทศ และกฎระเบียบที่อาจกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทในประเทศเวียดนาม