หุ้นปิดลบ 14 จุด กองทุนขาย 2.8 พันลบ. ต่างชาติเท 1.8 พันลบ.

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นปิดลบ 14.62 จุด นักลงทุนขายลดความเสี่ยง กังวลสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศ ยอดผู้ติดเชื้อใหม่ทะลุ 2,000 ราย นักลงทุนสถาบันขายนำ 2.8 พันล้านบาท ต่างชาติขาย 1.8 พันล้านบาท แนวโน้มสัปดาห์หน้า คาดดัชนีลงตาอ จากระยะการฟักตัวเชื้อโควิด-19 มองเคลื่อนไหวในกรอบ 1,530-1,580 จุด เตือนระมัดระวังการลงทุน แนะโอกาสซื้อหุ้นงบดี ชู DCC-GLOBAL-DOHOME-SCC-JMART-SINGER

ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 23 เม.ย. 2564 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,553.59 จุด -14.62 จุด หรือ -0.93% มูลค่าการซื้อขาย 86,151.91 ล้านบาท

นักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 2,851.21 ล้านบาท รองลงมานักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 1,833.19 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ขายสุทธิ 348.80 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 5,033.21 ล้านบาท

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยลบจากจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ภายในประเทศที่ปรับตัวขึ้นทะลุ 2,000 ราย และปัจจัยกดดันภายนอกมาจากการขึ้นภาษีคนรวยของนายโจ ไบเดน ทำให้ตลาดหุ้นวันสุดท้ายของสัปดาห์นี้ปรับลดลงมา 14.62 จุด จากการที่นักลงทุนขายเพื่อลดความเสี่ยง

ส่วนแนวโน้มของตลาดหุ้นสัปดาห์หน้า (26-30 เม.ย. 2564) คาดว่าดัชนีมีแนวโน้มจะปรับตัวลดลงจะมองเคลื่อนไหวในกรอบ 1,530-1,580 จุด โดยยังมีปัจจัยกดดันจากจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศที่อาจจะเพิ่มขึ้น จากการเชื้อโควิดฟักตัวในเป็นช่วง 14 วัน หลังจากสงกรานต์พอดี ซึ่งควรระมัดระวังการลงทุนในช่วงสัปดาห์หน้าให้ดี แต่ก็มองเป็นโอกาสในการเข้าซื้อหุ้นที่ผลประกอบการไตรมาส 1/2564 จะออกมาดี แนะนำ DCC ,GLOBAL ,DOHOME ,SCC ,JMART และSINGER

ขณะที่ปัจจัยที่ต้องติดตามต่อ การรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในไทยช่วงสัปดาห์หน้า การประชุมเฟด ช่วงวันที่ 27-28 เม.ย.2564 และตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ

5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่

KBANK ปิดที่ 132.00 บาท -5.00 หรือ -3.65% มูลค่าการซื้อขาย 5,394.97 ล้านบาท
STGT ปิดที่ 44.00 บาท -0.50 หรือ -1.12% มูลค่าการซื้อขาย 2,962.92 ล้านบาท
STA ปิดที่ 46.25 บาท -2.50 หรือ -5.13% มูลค่าการซื้อขาย 2,927.20 ล้านบาท
SAWAD ปิดที่ 82.00 บาท -1.50 หรือ -1.80% มูลค่าการซื้อขาย 2,140.79 ล้านบาท
CPALL ปิดที่ 62.25 บาท -1.25 หรือ -1.97% มูลค่าการซื้อขาย 2,019.38 ล้านบาท