HoonSmart.com>>วาว แฟคเตอร์ เปิดมิติใหม่ Domino’s Pizza ลุยขยายสาขาเท่าตัว ฐานทุนแกร่ง ล้างขาดทุนสะสมเกลี้ยง
นับถอยหลังเทรดพาร์ใหม่หุ้น บริษัท วาว แฟคเตอร์ (W) หลังผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติแผนปรับโครงสร้างทุน ด้วยการรวมพาร์จาก 1 บาท เป็น 15 บาท และลดทุนเพื่อล้างขาดทุนสะสม และส่วนต่ำมูลค่าหุ้น ส่งผลให้ฐานะทางการเงินของบริษัทสะท้อนฐานะทางการเงินที่แท้จริง
และประเด็นที่สำคัญ ซึ่งส่งผลดีกับผู้ถือหุ้นหุ้นในอนาคต หากบริษัทมีกำไรและกระแสเงินสด สามารถปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้
หลังการปรับโครงสร้างทุน ส่งผลให้หุ้นของบริษัทลดลง จากประมาณ 12,000 ล้านหุ้น เหลือราว 814 ล้านหุ้น
ขณะที่งบไตรมาส 2/64 ของบริษัทฯ จะไม่มีขาดทุนสะสมและส่วนต่ำมูลค่าหุ้นอีก (จากปี 63 ขาดทุนสะสม 953 ล้านบาท และส่วนต่ำมูลค่าหุ้นจำนวน 10,321 ล้านบาท )
แม้ในปี 2563 จะเกิดสถานการณ์การการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อหลายอุตสาหกรรม แต่ในส่วนของร้านอาหารในเครือ Food Holding ของ W ยังคงเติบโตอย่างโดดเด่น จากความสำเร็จในการเพิ่มช่องทางการขาย ผ่านช่องทาง Delivery ซึ่งเพิ่มยอดขายและส่วนแบ่งการตลาด ได้เป็นอย่างดีในช่วง Covid
อีกทั้งการรวมแบรนด์ร้านขนมญี่ปุ่นทุก Brand ในร้านเดียว ภายใต้ Concept “Bake Works” ทำให้ค่าเช่าที่เป็นค่าใช้จ่ายหลักลดลงอย่างมีนัยสำคัญ, การปรับปรุงบริการและคุณภาพอาหารของ Kagonoya โดยเฉพาะเรื่องเนื้อวัว ซึ่งเป็นจุดแข็งของแบรนด์ และได้รับผลตอบรับที่ดีมากจากลูกค้า
นอกจากนี้ ยังมีการปรับปรุงร้าน Le Boeuf ให้กลับเข้ามาในตลาดในฐานะร้าน Steak ชั้นนำได้
นับตั้งแต่มีเหตุการณ์โควิท 19 ระบาด ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2563 จะเห็นได้ว่ามีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของคนทุกกลุ่ม ทำให้เกิดการใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ ๆ ขึ้น อย่างมีนัยสำคัญ ที่เราเรียกว่า New Normal ทั้งการเว้นระยะห่างระหว่างกันในที่สาธารณะ
(Social Distancing) การใส่หน้ากากอนามัยในชีวิตประจำวัน
และการเปลี่ยนรูปแบบของการจับจ่ายใช้สอยต่าง ที่รวมไปถึงการสั่งอาหารทาง Delivery มากขึ้นด้วย
โดยภายหลัง W เข้าซื้อและรับโอนกิจการ Domino’s Pizza ในไทย เข้ามาในช่วงปลายปี 2563 ที่ผ่าน ได้มีการปรับกลยุทธ์ เพื่อส่งเสริมการตลาดในหลาย ๆ ช่องทาง ซึ่งทำให้ยอดขายเติบโต
ล่าสุด Domino’s Asia Pacific ได้มีแผนขยายสาขาเพื่อครอบคลุมพื้นที่บริการในเขตกรุงเทพมหานครเพิ่มมากขึ้นอีก 25 สาขา ภายในสิ้นปี 2564 จากที่มีอยู่เดิม 25 สาขาเป็น 50 สาขา
ทำให้เห็นภาพที่ชัดเจน Domino’s Pizza จะเป็นสินค้า “เรือธง” ที่นำพาธุรกิจ W ภายใต้โครงสร้างธุรกิจใหม่ Food Holding และภายใต้ทีมผู้บริหารชุดใหม่ ที่มีความเชี่ยวชาญทั้งในแง่ของการบริหาร ความสามารถในด้านการตลาด ที่เข้าใจธุรกิจอาหาร ผลักดันธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่ง สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น
มีรายงานว่า มีพันธมิตรยักษ์ใหญ่ ทั้งในตลาดหลักทรัพย์ฯ และนอกตลาดหลักทรัพย์ฯ สนใจเข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรกับ W โดยมองมาที่สินค้าที่เป็น “เรือธง” นั่นคือ Domino’s Pizza ซึ่งถือเป็นสินค้าที่มีจุดแข็ง และตอบโจทย์ยุค New Normal ได้อย่างลงตัว
มั่นใจว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานของ W ในปีนี้จะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ จากยอดขายของ Domino’s Pizza และร้านอาหารในเครือ ที่เดินหน้าขยายสาขาอย่างไม่หยุดยั้ง
ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์เคจีไอ (ประเทศไทย) แนะนำ “เก็งกำไร” W (ยังไม่มีเป้า Consensus) 1) ประเมินแนวรับ 0.24 บาท/ แนวต้านแรก 0.26 บาท กรณี Breakout ผ่านได้ประเมินแนวต้านถัดไป 0.28 – 0.30 บาท (Stop loss 0.22 บาท)
2) ประเมิน Sentiment บวกจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 8 เม.ย. นี้ เรื่องการ ปรับพาร์จากเดิม 1.0 บาท เป็น 15.0 บาท และลดส่วนทุนเพื่อล้างขาดทุนสะสม (ส่งสัญญาณพร้อมจ่ายปันผลเมื่อเริ่มมีกำไร)
3) ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (IFA) ประเมินร้านโดมิโน่ พิซซ่า ที่เพิ่งซื้อเข้ามา EBITDA จะเริ่มเป็นบวกหลังขยายสาขา 35 สาขา จากปัจจุบันมี 28 สาขา
ขณะที่ร้านอาหารอื่น ๆ ในกลุ่ม (อาทิ Kagonoya, Le Boeuf) คาดมีกำไรแล้ว ร้านโดมิโน่ พิซซ่า ได้รับอานิสงส์ Food delivery ในช่วง Work from Home อีกรอบ