รถไฟเหาะการลงทุนสกุลเงินดิจิทัล นักลงทุนควรจะขึ้นหรือไม่

โดย… รศ.ดร. พัฒนาพร ฉัตรจุฑามาส
ศ.ดร. ภรศิษฐ์ จิราภรณ์
ศ.ดร. ศิริมล ตรีพงษ์กรุณา
ผศ.ดร. ปิยะชาติ ภิรมย์สวัสดิ์
ดร. สรวงรัตน์ ปภังกร

หลายคนคงเคยสงสัยว่าสกุลเงินดิจิทัลหรือคริปโทเคอร์เรนซี(Cryptocurrency) คืออะไร จะเป็นสกุลเงินสำหรับอนาคตหรือไม่ ทำไม อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ถึงตัดสินใจซื้อบิทคอยน์ (Bitcoin หรือ BTC) ไปมูลค่ากว่า 15,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อแทนเงินสดของ บริษัท เทสลา มอเตอร์ (Tesla Motors, Inc.) มาลองดูกันว่าที่จริงแล้วคริปโทเคอร์เรนซี(Cryptocurrency) คืออะไร และนักลงทุนควรคำนึงถึงปัจจัยใดบ้างในการลงทุน

คริปโทเคอร์เรนซี(Cryptocurrency) อะไรคือ

คริปโทเคอร์เรนซี(Cryptocurrency) คือสกุลเงินเข้ารหัสหรือสินทรัพย์ดิจิทัลที่รับการออกแบบมาเพื่อเป็นสื่อกลางของการแลกเปลี่ยนโดยใช้วิทยาการเข้ารหัสหรือรหัสลับ การป้องกันและยืนยันธุรกรรม โดยพื้นฐานแล้วคริปโทเคอร์เรนซี(Cryptocurrency) ถูกสร้างไว้บนเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) หรือบางทีก็ถูกเรียกว่าระบบบันทึกรายการธุรกรรมดิจิทัลบนเครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Distributed Ledger Technology หรือ DLT) ทำให้ธุรกรรมของสินทรัพย์ดิจิทัลสามารถเกิดขึ้นได้อย่างโปร่งใส (Transparency) และไม่ต้องอาศัยตัวกลาง ด้วยการใช้เครือข่ายแบบกระจายศูนย์ที่ปลอดภัยจากปัญหาการเก็บข้อมูลไว้ที่เดียว (Decentralized) ซึ่งทำให้ข้อมูลธุรกรรมมีความปลอดภัยสูงจากการแก้ไขหรือปลอมแปลงข้อมูล ปลอดภัยจากการสูญหายข้อมูลเมื่อระบบมีปัญหา และที่สำคัญคือไม่มีคนใดคนหนึ่งเป็นเจ้าของหรือมีอำนาจเบ็ดเสร็จเพียงคนเดียว

เหตุใดคนทั่วโลกถึงให้ความสนใจคริปโทเคอร์เรนซี(Cryptocurrency)

ในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ราคาคริปโทเคอร์เรนซี(Cryptocurrency) ถีบตัวขึ้นอย่างมาก เหตุผลหนึ่งอาจจะเกิดขึ้นจากที่คนเริ่มไม่ค่อยเชื่อถือในเงินสกุลท้องถิ่นและไม่มั่นใจในเสถียรภาพระบบการเงินในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ นักลงทุนจากทั่วทุกมุมโลกต่างก็กระโดดเข้ามาลงทุนในตลาดคริปโทเคอร์เรนซี(Cryptocurrency) ทำให้ราคาของบิตคอยน์ พุ่งขึ้นไปแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 63,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 2 ล้านบาทในเดือนเมษายนที่ผ่านมา

แต่เนื่องจากคริปโทเคอร์เรนซี(Cryptocurrency) เป็นสินทรัพย์ที่ไม่สามารถจับต้องได้ ต่างจาก ทองคำ หรือ อสังหาริมทรัพย์ ทำให้หลายคนตั้งคำถามว่าสรุปแล้วสกุลเงินดิจิทัลควรนับเป็นสินทรัพย์ที่เหมาะกับการสะสมสินทรัพย์หรือไม่

คริปโทเคอร์เรนซี(Cryptocurrency) ถือว่าเป็นสินทรัพย์หรือไม่

ภายใต้ พ.ร.ก. การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 ถือว่าเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทหนึ่ง ซึ่งออกแบบให้เป็นสื่อกลางการแลกเปลี่ยน มีราคากลางในการซื้อขายแปรผันตามกลไกตลาด จึงมีหลายคนนำคริปโทเคอร์เรนซี(Cryptocurrency) เปรียบเทียบสกุลเงินตราต่างๆ (Fiat Currency) เช่น ดอลลาร์สหรัฐ เงินบาท ฯลฯ ซึ่งจะมีการหนุนหลังด้วยสินทรัพย์ที่มีค่า โดยในอดีตอาจใช้ทองคำหรือปัจจุบันใช้เครดิตของประเทศ แต่อย่างไรก็ตามคริปโทเคอร์เรนซี(Cryptocurrency) ยังไม่สามารถทำหน้าที่ของเงินได้ครบทุกคุณสมบัติ ธนาคารกลางส่วนใหญ่ยังไม่รับรองว่าบรรดาคริปโทเคอร์เรนซี(Cryptocurrency) ที่เอกชนสร้างขึ้นมาสามารถใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย นอกจากนี้มูลค่าของคริปโทเคอร์เรนซี(Cryptocurrency) ขึ้นอยู่กับเน็ตเวิร์คหรือจำนวนของคนใช้ เช่นเดียวกับ เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ อีกความหมายหนึ่งคือมูลค่าของคริปโทเคอร์เรนซี(Cryptocurrency) ถูกหนุนด้วยสิ่งที่จับต้องไม่ได้และมีความผันผวนที่สูงมาก

สกุลเงินดิจิทัลหมายถึงแค่บิทคอยน์เท่านั้นหรือ

บ่อยครั้งที่บิทคอยน์ (BTC) ถูกใช้เป็นชื่อเรียกแทนสกุลเงินดิจิทัล แต่แท้จริงแล้วปัจจุบันมีสกุลเงินดิจิทัลมากกว่า 8,800 สลุล1 อาทิเช่น Ethereum (ETH), Binance Coin (BNB), Tether (USDT) และRipple (XRP) แต่ละสกุลเงินดิจิทัลก็มีกลไกที่ต่างกันออกไป ตัวอย่างเช่น Ethereum เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่พัฒนาขึ้นบนแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส(Open source) ที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน(Blockchain Technology) ที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) จึงมีรูปแบบการใช้งานที่หลากหลายและกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเสนอขายเหรียญเริ่มต้นหรือที่ถูกเรียกกันว่า Initial Coin Offering (ICO) ในขณะที่ Binance Coin คือโทเคนดิจิทัลเพื่อการรับประโยชน์ที่ออกโดย Binance เว็บเทรด ตลาดแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ไว้สำหรับใช้ประโยชน์เพื่อการรับส่วนลดและการลดค่าธรรมเนียมในการซื้อขาย Tether (USDT) เป็นคริปโทเคอร์เรนซี(Cryptocurrency) ประเภทสเตเบิ้ลคอยน์ (Stablecoins) ซึ่งเป็นคริปโตที่ผูกกับสินทรัพย์ที่มีความคงที่หรือในขณะนี้คือ ผูกไว้กับดอลลาร์สหรัฐฯ

นักลงทุนควรคำนึงถึงปัจจัยใดบ้างในการลงทุน

เนื่องจากตลาดคริปโทเคอร์เรนซี(Cryptocurrency) มีความผันผวนเป็นอย่างมาก ตัวอย่างเช่น ในหนึ่งวันราคาบิทคอยน์เคยพุ่งสูงขึ้น 65% ในขณะที่ราคาน้ำมันผันผวนน้อยกว่า 10% โดยเฉลี่ย นักลงทุนควรพยายามกระจายความเสี่ยงโดยอย่าลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล หรือ บิทคอยน์เพียงอย่างเดียว ควรลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่าง และ หากจะลงทุนสกุลเงินดิจิทัล ก็ควรลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลประเภทต่างๆในเวลาเดียวกัน

ในงานผลวิจัยล่าสุดของ Phiromswad et al. (2021) ได้ศึกษาพฤติกรรมของราคาและผลตอบแทนสกุลเงินดิจิทัลประเภทต่างๆ ทั้งสกุลเงินดิจิทัลขนาดใหญ่เช่น บิทคอยน์ (BTC) Ethereum (ETH) และRipple (XRP) รวมทั้งสกุลเงินดิจิทัลขนาดกลางและเล็ก ซึ่งเป็นการศึกษาที่รวมสกุลเงินดิจิทัลประเภทต่างๆไว้ในการศึกษาที่มากที่สุด คณะผู้วิจัยพบว่าสกุลเงินดิจิทัล มีการปรับตัวแบบฉับพลัน หรือ Jumps ในความถี่และขนาดที่สูงกว่าหุ้นอยู่หลายเท่าตัว

นอกจากนี้ คณะผู้วิจัยพบว่าสกุลเงินดิจิทัลขนาดกลางและขนาดเล็ก มีการปรับตัวแบบฉับพลัน หรือ Jumps ในความถี่และขนาดที่มากกว่าสกุลเงินดิจิทัลขนาดใหญ่อีกหลายเท่าตัว แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าสกุลเงินดิจิทัลมีการปรับตัวที่ไม่ปกติ และ มีความเสี่ยงที่อาจจะมากเกินกว่าที่นักลงทุนหลายคนตระหนัก อย่างไรก็ตามหากนักลงทุนจัดสรรสัดส่วนการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลอย่างเหมาะสม และไม่กระจุกตัวเกินไปก็สามารถกระจายความเสี่ยงของลงทุนได้ นอกจากนี้การลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล ถือเป็นการเรียนรู้แบบลงสนามจริงแบบหนึ่ง เพราะสินทรัพย์ดิจิทัลจะอยู่กับเราไปอีกนาน

จะซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี(Cryptocurrency) ได้ที่ไหน

นักลงทุนไทยสามารถซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี(Cryptocurrency)ได้ผ่านโบรกเกอร์ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลขององค์กรการเงินระหว่างประเทศ ตัวอย่างเช่น Bitkub, Satang Pro และ Upbit เนื่องจากคริปโทเคอร์เรนซี(Cryptocurrency) เป็นนวัตกรรมทางการเงินรูปแบบใหม่ที่มีความผันผวนสูง การลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) จึงต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจและความสามารถรับความเสี่ยงจากการได้รับผลขาดทุนจากการลงทุนได้ นอกจากนี้คริปโทเคอร์เรนซี(Cryptocurrency) อาจเป็นช่องทางหนึ่งในการทำ “illicit financing” หรือช่องทางการเงินที่ผิดกฎหมาย เนื่องจากเป็นระบบที่ยากต่อการสืบค้นหาเจ้าของตัวจริงของแต่ละบัญชี ปัจจุบันทาง ก.ล.ต.จึงมีแนวคิดที่จะยกระดับการกำกับดูแลการซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี(Cryptocurrency)โดยกำหนดคุณสมบัติผู้ลงทุน

สรุปคริปโทเคอร์เรนซี(Cryptocurrency) น่าลงทุนหรือไม่

“ผมมองว่าถ้าคุณมีเงินน้อยกว่าอีลอน มัสก์ (Elon Musk) คุณก็ควรระวังการลงทุนในบิตคอยน์” ปรับปรุงมาจากคำกล่าวของนายบิล เกตส์(Bill Gates)

ตลาดคริปโทเคอร์เรนซี(Cryptocurrency) เป็นอีกทางเลือกหนึ่งแต่ต้องลงทุนอย่างระมัดระวัง การลงทุนในตลาดคริปโทเคอร์เรนซี(Cryptocurrency) ควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดถี่ถ้วนก่อนการลงทุนเสมอ และควรตระหนักถึงความเสี่ยงและความไม่แน่นอนของการลงทุนด้วย แน่นอนว่าทุกการลงทุนมีความเสี่ยง แต่การลงทุนในตลาดคริปโทเคอร์เรนซี(Cryptocurrency) นั้นอาจจะมีมากกว่าความเสี่ยง เพราะการลงทุนในในตลาดคริปโตทคอร์เรนซี(Cryptocurrency) นั้น เป็นรูปแบบการลงทุนที่แม้แต่นักวิชาการหรือนักลงทุนมืออาชีพยังไม่เข้าใจถึงพฤติกรรมของมันอย่างแท้จริง

ดังนั้นการลงทุนในตลาดคริปโทเคอร์เรนซี(Cryptocurrency) จึงไม่ได้มีแต่ความเสี่ยง แต่ยังมีความไม่รู้ หรือความไม่แน่นอนอยู่ด้วย อย่างเช่นถ้าเราโยนเหรียญแล้วทาย เราพอทราบว่ามีโอกาสที่จะออกหัวหรือออกก้อยก็จะอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าเป็นการลงทุนในตลาดคริปโทเคอร์เรนซี(Cryptocurrency) ถ้าเทียบเหมือนการทายเหรียญ ก็เสมือนว่าไม่รู้เลยว่าโอกาสที่เหรียญจะออกหัวหรือออกก้อยเป็นกี่เปอร์เซนต์

อ้างอิง
ข้อมูลจากเว็บไซต์ CoinMarketCap
ชูเชิด, ฐิติมา (2019, Feb1) “สกุลเงินดิจิทัล ใกล้ตัวเราแค่ไหน?”, Bank of Thailand. Available at https://www.bot.or.th/Thai/ResearchAndPublications/articles/Pages/Article_01Feb2019.aspx
“’บิล เกตส์’ เตือนไม่รวยเท่า ‘อีลอน มัสก์’ อย่าเล่นบิตคอยน์” (2021, Feb26). Post today. Available at https://www.posttoday.com/world/646448
“A global survey report on crypto user motivations, behaviors and preferences” (2021, Jan28). Binance Research (Jonas). Available at https://research.binance.com/en/analysis/global-crypto-user-index-2021
Phiromswad, P., Chatjuthamard, P., Treepongkaruna, S., & Srivannaboon, S. (2021). Jumps and Cojumps analyses of major and minor cryptocurrencies. PloS one, 16(2), e0245744.