HoonSmart.com>> นักวิเคราะห์แนะหาจังหวะซื้อหุ้นพลังงาน-ปิโตรเคมี-โรงกลั่น กำไรฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลก ราคาน้ำมันดิบสูง บล.ยูโอบีฯ คาดช่วงสั้นเจอทำกำไร ระยะยาวมั่นใจโตเด่น แนะนำ SCC-PTT-PTG ส่วนบล.เอเซีย พลัส เตือนราคาหุ้นกลุ่มนี้เริ่มสูง เลือกตัวที่ขึ้นไม่มาก ชอบ PTT-PTTEP บล.หยวนต้า ชู IRPC-PTTGC-TOP เด่น ตลาดหุ้นบวก 5.64 จุด สถาบันช้อนหุ้น 4,229.69 ล้านบาท ต่างชาติซื้อด้วย 2,313 ล้านบาท รายย่อยขายกว่า 5.5 พันล้านบาท
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า หุ้นในกลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี และโรงกลั่น มีแรงขายทำกำไรออกมาบางส่วน เนื่องจากนักลงทุนเปลี่ยนไปลงทุนหุ้นที่ยังขึ้นช้ากว่าตลาด (Laggard) แม้ว่าทั้ง 3 ธุรกิจจะมีผลประกอบการงวดไตรมาส 1/2564 เติบโตต่อเนื่องก็ตาม ทั้งจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และจากไตรมาสก่อนหน้า
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำซื้อหุ้นที่คาดว่าเติบโตโดดเด่น ได้แก่ SCC ที่ราคาเป้าหมาย 500 บาท ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ไตรมาส 1/64 คาดว่าจะออกมาดี , PTT ราคาเป้าหมายที่ 48 บาท เติบโตโดดเด่นจากบริษัทย่อยที่คาดว่าจะออกมาดีขึ้นทุกบริษัท และ PTG ค่าการตลาดทรงตัวในระดับสูง และซื้อขายที่ P/E 18 เท่า ถูกกว่า OR ที่มี P/E 32 เท่า
“กลุ่มที่แนะนำยังได้ประโยชน์จากการกลับมาเปิดเมือง และเศรษฐกิจฟื้นตัว เป็นปัจจัยหนุนในอนาคต ซึ่งในไตรมาส 1 จะเป็นอีกกลุ่มที่มีความน่าใจในเรื่องผลประกอบการและการเติบโต จากปีก่อนที่เป็นจุดต่ำสุด ส่วนกลุ่มแบงก์ก็ได้ประโยชน์ แนะนำ BBL และTISCO” นายกิจพณ กล่าว
ด้านนายภราดร เตียรณปราโมทย์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล. เอเซีย พลัส กล่าวว่า ปัจจัยลบในช่วงสั้นต่อกลุ่มพลังงาน คือการที่เรือที่ขวางคลองสุเอซ สามารถกลับมาเดินเรือได้อีกครั้ง ใช้เวลาเร็วกว่าคาดเพียงสัปดาห์เดียว แต่ภาพรวมในระยะยาวราคาน้ำมันดิบยังอยู่ในระดับสูง คาดว่าการประชุมโอเปกจะขยายเวลาที่ปรับลดกำลังการผลิตอีก 1 เดือน และเศรษฐกิจทั่วโลกที่ฟื้นตัว สำหรับการลงทุนแนะนำเก็งกำไรรายตัว เลือกหุ้นที่ราคาปรับขึ้นไม่มากและพื้นฐานยังแข็งแกร่ง แนะนำ PTT ราคาเหมาะสมที่ 48.50 บาท และ PTTEP ราคาที่ 128 บาท
ด้านนายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า กลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี และโรงกลั่น ในภาพรวมก็ยังมีแนวโน้มดีไตรมาส 1/64 ทั้งทิศทางของราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นตั้งแต่ปลายปีก่อน และค่าส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่ฟื้นตัวดีขึ้น แนะนำหุ้น IRPC ,PTTGC และTOP
ตลาดหุ้นวันที่ 30 มี.ค. ปรับตัวขึ้นตามภฒิภาค ดัชนีปิดที่ 1,589.53 จุด +5.64 จุดหรือ +0.36% ด้วยมูลค่าการซื้อขายรวม 107,224.29 ล้านบาท มาจากแรงซื้อของ สถาบันไทยมากถึง 4,229.69 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อด้วย 2,313 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนไทยทิ้งหนัก 5,508 ล้านบาทและพอร์ตบล.ขายตาม 1,034 ล้านบาท