EVER ครึ่งปีหลังคลอดทาวน์โฮม 3 โครงการลุ้นผลงานเทิร์นอะราวด์

“เอเวอร์แลนด์” บุกโครงการแนวราบเตรียมคลอดทาวน์โฮม 3 โครงการในช่วงที่เหลือปีนี้ หลังผลตอบรับยอดขายคึกคักและยังรับรู้รายได้เร็วขึ้น พร้อมส่งซิกปลายปีนี้ผลประกอบการมีลุ้นเทิร์นอะราวด์

นายสวิจักร์ โลจายะ ประธานกรรมการ บริษัท เอเวอร์แลนด์ (EVER) เปิดเผยว่า ในปีนี้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่หันมาให้น้ำหนักโครงการแนวราบมากขึ้น เนื่องจากมีซัพพลายแนวราบออกสู่ตลาดค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับโครงการแนวสูงที่มีมากกว่าในช่วงก่อนหน้า นอกจากนี้โครงการแนวราบมีการรับรู้รายได้เร็วกว่าโครงการแนวสูง

สวิจักร์ โลจายะ

ทั้งนี้ EVER ได้เริ่มเน้นเปิดโครงการแนวราบในปีนี้และมีแนวโน้มที่จะพัฒนาต่อเนื่องในปีถัดไปเนื่องจากพบว่าความต้องการยังมีสูง ขณะเดียวกันยังเป็นการสร้างรายได้เพิ่มขึ้น เพราะรับรู้ได้เร็วเมื่อเทียบกับโครงการแนวสูง โดยได้วางเป้าเพิ่มสัดส่วนแนวราบทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์และโครงการแนวสูงให้มีสัดส่วน 50:50 ภายใน 3ปี ข้างหน้า จากปัจจุบันที่พอร์ตรายได้ส่วนใหญ่จะมาจากโครงการแนวสูง โดยจะทยอยเห็นการบาลานซ์ในปีนี้

บริษัทจะให้ความสำคัญในการสร้างแบรนด์แนวราบ ได้แก่ บ้านเดี่ยว ภายใต้แบรนด์” มายโฮม อเวนิว” และทาวน์โฮม แบรนด์ “เอเวอร์ ซิตี้ ” ให้เป็นที่รู้จักของลูกค้ามากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดตัวบ้านเดี่ยว สไตล์ MODERN CHIC มายโฮมอเวนิว ทำเลย่านรามอินทรา-จตุโชติราคา 3 ล้านกว่าบาท ในช่วงเดือนพค.ที่ผ่านมาได้รับการตอบรับที่ดี ขณะที่ทาวน์โฮม คาดจะเห็นทยอยเปิดโครงการในช่วงที่เหลือ ย่านทำเลสุขสวัสดิ์ , บางนา หนามแดง ฯลฯ ซึ่งบริษัทฯได้แบงก์ให้การสนับสนุนวงเงินในการซื้อที่ดินเพื่อรอการพัฒนาไว้เรียบร้อยแล้ว

อย่างไรก็ตามโครงการแนวสูง โดยเฉพาะโครงการย่านสนามบินน้ำนั้น ยังได้รับการตอบรับที่ดีมีการจองอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการเร่งปิดยอดขายและโอนโครงการคอนโดมิเนียม “เดอะโพลิแทน บรีซ” มูลค่าโครงการ 1,900 ล้านบาท ซึ่งมีการออกโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นการซื้อ เพิ่มยอดขายและยอดโอน โดยถือเป็นโครงการที่อยู่บนทำเลรถไฟฟ้าสายสีม่วง มีศักยภาพและน่าสนใจไม่น้อยกว่าสายอื่นๆ

ปัจจุบันเดอะโพลิแทน บรีซ มียอดขายแล้ว 1,000 ล้านบาท จะก่อสร้างแล้วเสร็จในไตรมาส 3 นี้และเริ่มโอนในเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งนอกเหนือโครงการแนวสูง เดอะ โพลิแทน ริฟ และโครงการเดอะโพลิแทน อควา ที่จะทยอยรับรู้ตั้งแต่ปีหน้า

“ในปีนี้จะเป็นปีแห่งการเทิร์นอะราวด์จากปีก่อนและน่าจะเห็นกำไรได้บ้าง รายได้ปีนี้เราตั้งเป้าไว้ที่ 1,900 -2,000 ล้านบาท หลักๆในปีนี้สัดส่วน 90 % ยังคงมาจากรายได้จากแนวสูง และจะพยายามเพิ่มสัดส่วนแนวราบที่ปีนี้ขยายตัว พบว่าความต้องการยังมีอยู่สูง ขณะที่ภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ก็มีแนวโน้มที่ดี ด้านการกู้เงินอาจต้องพิจารณาควบคู่กันไป เพราะการที่หนี้ครัวเรือนมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอาจทำให้แบงก์มีความระมัดระวัง”นายสวิจักร์ กล่าว