GGC แฉพนักงานร่วมโกง ไล่บี้ทวงคืน คาดสูญไม่ถึง 2.1 พันล.

“โกลบอลกรีนเคมิคอล” เปิดผลตรวจสอบอภิมหาโกง คนในบริษัทร่วมมือกับคู่ค้า ส่งวัตถุดิบไม่ครบ ส่งไปกลั่นก็ไม่ได้สินค้า ทำเอกสารโอนสิทธิเรียกเก็บเงินปลอม บริษัทฟ้องตามกฎหมายแล้ว บอร์ดสั่งปรับปรุงการดำเนินธุรกิจลดพึ่งพาคนนอก แก้ปัญหาระยะยาว จ้างผู้เชี่ยวชาญมาช่วยปิดจุดอ่อน คาดสรุปส.ค.นี้

นายอัฒฑวุฒิ หิรัญบูรณะ รักษาการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล(GGC) รายงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถึงผลการตรวจสอบหาสาเหตุที่ทำให้วัตถุดิบคงคลังหายไปประมาณ 2,100 ล้านบาทว่า เป็นการกระทำอันมิชอบร่วมกันของคู่ค้าบางรายกับพนักงานในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของบริษัทฯ เมื่อบริษัทฯได้สั่งซื้อวัตถุดิบจำนวนหนึ่ง แต่ในความจริงไม่มีการส่งมอบวัตถุดิบหรือส่งมอบเพียงบางส่วน จึงทำให้วัตถุดิบคงคลังในระบบสูงกว่าปริมาณที่มีอยู่จริงในสถานที่จัดเก็บ

นอกจากนี้ยังรวมถึงส่วนที่บริษัทฯจัดส่งวัตถุดิบไปให้คู่ค้า เพื่อทำการจ้างกลั่น แต่ปรากฎว่า คู่ค้าไม่ได้ส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่จ้างกลั่นให้ตามสัญญา และไม่มีการส่งมอบคืนวัตถุดิบให้บริษัทด้วย

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2561 ที่ผ่านมา บริษัทฯได้เริ่มดำเนินการทางกฎหมายตามมติของคณะกรรมการบริษัทฯกับผู้เกี่ยวข้องทั้งภายนอกและภายในบริษัทไปแล้ว นอกจากนี้บริษัทฯก็ได้มีการสอบสวนทางวินัยกับพนักงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องควบคู่กัน

สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้น อาจจะลดลงต่ำกว่าจำนวน 2,100 ล้านบาทที่ประเมินไว้ บริษัทฯมีสิทธิตามกฎหมายที่จะเรียกคืนเงินค่าวัตถุดิบที่ได้ชำระไปโดยไม่มีการส่งมอบวัตถุดิบหรือสามารถทวงถามให้มีการส่งมอบวัถุดิบที่ยังมิได้มีการส่งมอบไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน

นอกจากนี้ยังมีกรณีการเรียกเก็บเงินที่บริษัทฯได้รับแจ้งจากบุคคลภายนอกที่ได้รับโอนสิทธิการรับชำระเงินค่าวัตถุดิบไปจากคู่ค้าบางราย ซึ่งบริษัทฯได้พิจารณาจากเอกสารที่ได้รับแจ้งมาแล้วพบว่าเป็นเอกสารที่ไม่อยู้ในระบบของบริษัทฯและไม่พบหลักฐานการส่งมอบวัตถุดิบตามที่ระบุในเอกสารดังกล่าว ซึ่งที่ปรึกษากฎหมายของบริษัทฯมีความเห็นว่าตามบทบัญญัติของกฎหมาย บริษัทฯไม่น่าจะมีหน้าที่ที่จะต้องชำระเงินค่าวัตถุดิบ หากไม่มีการส่งมอบวัตถุดิบให้บริษัทฯตามที่มีการเรียกให้ชำระราคาดังกล่าว เว้นแต่จะมีข้อเท็จจริงชี้ชัดเป็นอย่างอื่น บริษัทฯจึงได้สั่งให้ที่ปรึกษากฎหมายทำการศึกษาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายให้แน่ชัด เพื่อที่บริษัทฯจะได้ดำเนินการอย่างเหมาะสมต่อไป

ในส่วนระบบการควบคุมภายในที่ผ่านมา บริษัทใช้หลักแบ่งแยกหน้าที่ สำหรับกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการจัดการด้านวัตถุดิบคงคลังของบริษัทฯเพื่อให้กระบวนการดังกล่าวมีการควบคุมที่เพียงพอ โดยเริ่มตั้งแต่กระบวนการสั่งซื้อวัตถุดิบ กระบวนการรับมอบและจัดเก็บวัตถุดิบคงคลัง และกระบวนการอนุมัติจ่ายค่าวัตถุดิบ โดยในช่วงปี 2560 บริษัทฯไม่พบข้อมูลที่บ่งชี้ว่าปริมาณวัตถุดิบคงคลังขาดหายไป แต่ในช่วงเดือนมิ.ย.2561 คณะกรรมการบริษัทฯได้รับทราบรายงานเบื้องต้นเกี่ยวกับปัญหาเรื่องวัตถุดิบ และได้ให้นโยบายในการปรับปรุงการดำเนินธุรกิจเพื่อแก้ปัญหาระยะยาวในอนาคต เน้นการลดระดับการพึ่งพาบุคคลภายนอก

บริษัทเชื่อว่าระบบควบคุมภายในที่ใช้หลักแบ่งแยกหน้าที่ เพื่อป้องกันไม้ให้มีการกระทำจากการคิดมิชอบและการไปตรวจนับปริมาณวัตถุดิบคงคลังที่บริษัทฯจัดเก็บไว้ทั้งภายในและภายนอกเป็นครั้งคราวนั้น มีประสิทธิภาพและมีความเพียงพอตามมาตรฐานทั่วไปของระบบควบคุมภายในแล้ว

อย่างไรก็ตาม เมื่อบริษัทฯได้รับทราบสาเหตุของปัญหาโดยละเอียดแล้ว เชื่อว่าสามารถปรับปรุงขั้นตอนและระบบต่างๆ เพื่อให้เกิดสภาพแวดล้อมที่สามารถป้องกันปัญหาในลักษณะเดิม หรือการกระทำอันมิชอบในลักษณะอื่นๆมิให้เกิดขึ้นอีก รวมถึงช่วยส่งเสริมการควบคุมภายในและช่วยให้กระบวนการตรวจสอบสามารถพบปัญหาหรือความเสี่ยงต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วยิ่งขึ้น หลังจากปรับปรุงขั้นตอนและระบบต่างๆบางส่วนไปแล้ว

นอกจากนี้คณะกรรมการบริษัทฯยังมีมติให้พิจารณาปรับปรุงนโยบาย Whistleblower ที่มีอยู่เดิมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และให้ว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญภายนอกเพื่อดำเนินการทบทวน สอบทาน รวมถึงให้ความเห็นในการปรับปรุงระบบควบคุมภายในบริษัทในเรื่องกระบวนการจัดหาวัตถุดิบทั้งกระบวนการตั้งแต่ต้นจนจบ เพื่อให้เกิดความรัดกุมมากยิ่งขึ้น คาดว่าจะสามารถสรุปความเห็นและประเด็นที่ตรวจพบได้ภายในประมาณต้นเดือนส.ค.2561